Gen Z vs. Baby Boomers ใครเที่ยวสงกรานต์แบบไหน และพฤติกรรมการท่องเที่ยวของสองเจเนอเรชัน แตกต่างกันอย่างไร?
ช่วงเทศกาลสงกรานต์ถือเป็นเวลาทองของการท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือพฤติกรรมของนักเดินทางในแต่ละช่วงวัยมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน จากข้อมูลเชิงลึกของ AirAsia MOVE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจองที่พักและเที่ยวบินชั้นนำ พบว่า Gen Z (เกิดปี 1997–2012) และ Baby Boomers (เกิดปี 1946–1964) มีแนวโน้มพฤติกรรมในการเดินทางที่แตกต่างกัน ทั้งในแง่วิธีการจอง จุดหมายปลายทาง และสไตล์การท่องเที่ยว
Gen Z: นักเดินทางสายลุย คล่องตัว และรักอิสระ
Gen Z เป็นกลุ่มนักเดินทางที่เน้นความยืดหยุ่น คล่องตัว และให้ความสำคัญกับประสบการณ์แปลกใหม่มากกว่าความหรูหรา โดยพฤติกรรมเด่นของกลุ่มนี้ ได้แก่
- 80% ของ Gen Z จองการเดินทางผ่านสมาร์ตโฟน เพื่อความสะดวกรวดเร็ว
- 24% นิยมจองที่พักแบบนาทีสุดท้าย (Last-minute booking) เพื่อความยืดหยุ่นในการวางแผน
- 20% เลือกเดินทางคนเดียว (Solo Travel) หรือแบบ Backpacking ซึ่งสะท้อนความต้องการอิสระ
- 30% นิยมที่พักราคาประหยัด เช่น โฮสเทล บูติกโฮเทล หรือแคปซูลโฮเทล
- 70% ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เช่น เที่ยวธรรมชาติ คาเฟ่ลับ หรือเข้าร่วมเวิร์กชอปท้องถิ่น
จุดหมายยอดฮิตของ Gen Z ช่วงสงกรานต์
- เชียงใหม่ (30%) – เน้นคอมมูนิตี้ Backpacker และกิจกรรมกลางแจ้ง
- โอซาก้า, ญี่ปุ่น (8%) – เมืองแห่งสตรีทฟู้ด วัฒนธรรมป๊อป และที่พักราคาย่อมเยา
- ดานัง, เวียดนาม (5%) – เมืองชายทะเลพร้อมกิจกรรมผจญภัย
พฤติกรรมเด่นของ Gen Z ได้แก่ การเลือก Backpacking และ Solo Travel เพื่อความอิสระในการวางแผนทริป การใช้งานมือถือในการจองทุกอย่างเพื่อความสะดวก รวดเร็ว และการเลือกที่พักแปลกใหม่ เช่น แคปซูลโฮเทล คาเฟ่โฮสเทล หรือ Eco-Friendly Hostel รวมถึงการค้นหากิจกรรมแปลกใหม่ เช่น เที่ยวธรรมชาติ ลุยคาเฟ่ลับ หรือร่วมเวิร์กชอปท้องถิ่น จุดหมายปลายทางยอดฮิตของกลุ่มนี้ในช่วงสงกรานต์คือ เชียงใหม่ (30%) ด้วยเสน่ห์ของคอมมูนิตี้แบ็กแพ็กเกอร์ และกิจกรรมกลางแจ้ง ในต่างประเทศ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น (8%) และเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม (5%) เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม เพราะมีอาหารสตรีทฟู้ด วัฒนธรรมป๊อป และกิจกรรมผจญภัยให้เลือกหลากหลาย
Baby Boomers: นักท่องเที่ยวสายพรีเมียม เน้นความสะดวกสบาย
Baby Boomers ให้ความสำคัญกับการวางแผนล่วงหน้าและการบริการระดับพรีเมียม โดยพฤติกรรมที่โดดเด่นมีดังนี้:
- 90% ของ Baby Boomers จองที่พักล่วงหน้าเสมอ มากกว่า 50% จองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 สัปดาห์
- 55% นิยมแพ็กเกจทัวร์หรือการเดินทางที่วางแผนไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวกและไม่ต้องกังวล
- 35% ให้ความสำคัญกับสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สปา ห้องอาหาร บริการรถรับส่ง
- 35% เลือกพักในโรงแรมหรู วิลล่าส่วนตัว หรือรีสอร์ตแบบ All-Inclusive
- 74% ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ศิลปะ ประวัติศาสตร์ และ Fine Dining
จุดหมายยอดนิยมของ Baby Boomers ช่วงสงกรานต์
- ญี่ปุ่น (14%) – โดยเฉพาะเมืองเกียวโต ที่เต็มไปด้วยวัด สวนญี่ปุ่น และเรียวกังหรู
- เวียดนาม (12%) – โดยเฉพาะเมืองฮอยอัน เมืองมรดกโลกที่มีเสน่ห์แบบดั้งเดิม
- ประเทศไทย (49%) – กรุงเทพฯ ยังคงเป็นปลายทางยอดฮิต ด้วยที่พักหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร้านอาหารมิชลิน และกิจกรรมล่องเรือดินเนอร์
พฤติกรรมที่โดดเด่นของกลุ่มนี้ คือ การเดินทางที่วางแผนไว้ล่วงหน้า (55%) การเลือกที่พักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น สปา ร้านอาหาร บริการรับ-ส่ง (35%) และการให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงศิลปะ วัฒนธรรม หรือการรับประทานอาหาร Fine Dining (74%)
ประเทศปลายทางยอดนิยมของ Baby Boomers ในช่วงสงกรานต์ได้แก่ ญี่ปุ่น (14%) โดยเฉพาะเมืองเกียวโตซึ่งเต็มไปด้วยวัดและเรียวกังหรู เวียดนาม (12%) โดยเฉพาะเมืองฮอยอัน เมืองมรดกโลกที่ยังคงความดั้งเดิม และประเทศไทย (49%) โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ที่มีที่พักหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา และร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ พร้อมกิจกรรมล่องเรือดินเนอร์สุดพิเศษ
ความแตกต่างที่สะท้อนแนวคิดและไลฟ์สไตล์
แม้ว่าทั้งสองกลุ่มจะมีเป้าหมายเดียวกันคือการพักผ่อนและท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ แต่ลักษณะการวางแผนและเลือกที่พักกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
- Gen Z มักเลือกที่พักใกล้แหล่งท่องเที่ยวมากกว่า Baby Boomers ถึง 45% เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงจุดหมาย
- Baby Boomers เลือกพักในสถานที่เงียบสงบ พร้อมบริการครบวงจร เช่น Concierge และ Private Tour ซึ่งใช้บริการมากกว่า Gen Z ถึง 95%
- พฤติกรรมการจองของ Gen Z สะท้อนความคล่องตัวและความพร้อมปรับเปลี่ยนแผน ในขณะที่ Baby Boomers ต้องการความมั่นใจและการเตรียมการล่วงหน้า
Gen Z นิยมจองที่พักที่อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวมากกว่า Baby Boomers ถึง 45% เพราะต้องการความคล่องตัวในการเข้าถึงจุดหมาย ส่วน Baby Boomers ให้ความสำคัญกับที่พักที่เงียบสงบ บริการครบครัน และมีการใช้บริการ Concierge หรือ Private Tour สูงกว่า Gen Z ถึง 95%
อีกหนึ่งความแตกต่างคือพฤติกรรมการวางแผนเดินทาง โดยกว่า 50% ของ Baby Boomers จองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 3 สัปดาห์ แสดงถึงความต้องการความมั่นใจและความเป็นระบบในการเดินทาง ขณะที่ 24% ของ Gen Z เลือกจองนาทีสุดท้าย สะท้อนถึงความยืดหยุ่น พร้อมปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางได้ทันที
ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางสายแอดเวนเจอร์ หรือผู้ที่มองหาการพักผ่อนระดับพรีเมียม การเข้าใจความต้องการเฉพาะของแต่ละเจเนอเรชันจะช่วยให้ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้และในอนาคต
ที่มาภาพ :
Keegan Checks จาก Pexels
Airam Dato-on จาก Pexels
Nina Uhlikova จาก Pexels
Shutterstock
เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
เรียนรู้จากญี่ปุ่น! 5 เทคโนโลยีต้านแผ่นดินไหว พร้อมวิธีรับมือแรงสั่นสะเทือนระดับ 9.0 ริกเตอร์ได้