‘มอร์แกน สแตนลีย์’ เผยกลยุทธ์จัดพอร์ตนักลงทุนใหม่ เลือกหุ้นESG เป็นธุรกิจมีอนาคตโตยั่งยืน

‘มอร์แกน สแตนลีย์’ เผยกลยุทธ์จัดพอร์ตนักลงทุนใหม่ เลือกหุ้นESG เป็นธุรกิจมีอนาคตโตยั่งยืน


มอร์แกนสแตนลีย์ เผยผลสำรวจนักลงทุน 77% โดยเฉพาะเจนวาย ในสหรัฐ และยุโรป เบนจัุดพอร์ตหาหุ้นESG เชื่อเป็นหุ้นแห่งอนาคตเติบโตยั่งยืน หวั่นฟอกเขียว เงินเฟ้อ และผลฃตอบแทน และความน่าเชื่อถือยังเป็นกับดักฉุกความเชื่อมั่นนักลงทุน

 

 

 

มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) เป็นหนึ่งในบริษัทให้บริการทางการเงินระดับโลก ให้บริการกองทุนต่อบุคคล บริษัท รวมถึงหน่วยงานรัฐบาลและสถาบันการเงินทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ได้ทำการสำรวจด้านความยั่งยืนของนักลงทุน “Sustainable Signals: New Survey Shows High and Rising Individual Investor Interest in Sustainability” โดยเข้าไปสำรวจนักลงทุนมากกว่า 2,800 รายที่มีสินทรัพย์ลงทุนมูลค่ามากกว่า 100,000 ดอลลาร์ทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์ และญี่ปุ่น

 

 

 

รายงานผลสำรวจความเห็นของนักลงทุนจำนวนมากพบว่า กลุ่มนักลงทุนมีการวางแผนจัดสรรเพิ่มสัดส่วนของการลงทุนที่ยั่งยืนมากขึ้น เป็นสิ่งที่นักลงทุนเริ่มให้ความสนใจและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่มุ่งเน้นการลงทุนยั่งยืนเพิ่มขึ้น เพราะรูปแบบการลงทุนวางสมดุลระหว่าง 3 ส่วนประกอบด้วย สิ่งแวดล้อม, สังคม และ ธรรมาภิบาล (ESG) หลักการการลงทุนที่สร้างความแข็งแกร่งสามารถนำธุรกิจไปสู่ผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีขึ้น

 

นักลงทุนเจนวาย ในสหรัฐ ยุโรป
เน้นลงทุนหุ้นยั่งยืน แซงญี่ปุ่น

 

 

โดยเจาะลึกเข้าไปพบว่าสัดส่วนนักลงทุนให้ความสนใจการลงทุนยั่งยืนดังนี้

-มากกว่า 77% มีความสนใจในการลงทุนที่ยั่งยืน -สัดส่วน 40% มีความสนใจอย่างมาก
-ขณะที่ 57% มีความสนเพิ่มขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา
– 54% คาดว่าจะเพิ่มเปอร์เซ็นต์ของพอร์ตการลงทุน จัดสรรให้กับการลงทุนที่ยั่งยืนภายใน 12 เดือน หรือ 1 ปีข้างหน้า

ทางด้านนักลงทุนในภูมิภาคต่างๆ พบว่า นักลงทุนในสหรัฐฯ และยุโรป ระบุถึงระดับที่แข็งแกร่งที่สุดของความสนใจในการลงทุนอย่างยั่งยืนและแผนการลงทุน

– 84% ของผู้ตอบแบบสอบถามในสหรัฐฯ

-85% ของกลุ่มนักลงทุนชาวยุโรป ให้ความสนใจการลงทุนที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ ถือว่ามีสัดส่วนสูงเกือบสองในสามของผู้ตอบแบบสอบถามในแต่ละกลุ่มบ่งชี้ว่า มีความสนใจในการลงทุนอย่างยั่งยืนเพิ่มขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา

 

 

โดยแยกเป็นกลุ่มแต่ละช่วงวัย หรือ เจเนเรชั่น พบว่า ระดับความสนใจในภูมิภาคเหล่านี้ กลุ่มที่ใหัความสนใจสูงเป็นพิเศษ อยู่ในกลุ่มนักลงทุนรุ่นมิลเลนเนียล(Millennial) หรือ Gen Y มีสัดส่วนถึง 96% ของผู้ตอบแบบสอบถามเป็นประชากรจากในสหรัฐอเมริกา และ 97% จากยุโรป ส่วนในญี่ปุ่น ผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 56% เท่านั้นที่รายงานว่ามีความสนใจการลงทุนที่ยั่งยืน และมีเพียง 36% เท่านั้นที่ระบุว่ามีความสนใจเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นผลจากตลาดการลงทุนที่ยั่งยืนมีการพัฒนาน้อยกว่า

90% เน้นลงทุนคู่ESG

รายงานยังระบุถึงผลสำรวจเกี่ยวกับความคิดเห็นในการลงทุนESG พบว่า นักลงทุนส่วนใหญ่กว่า 90% เชื่อว่าผลการดำเนินงานทางการเงินนั้นมีทิศทางที่สอดคล้องกันกับESG จะทำให้ธุรกิจได้รับความสนใจในการลงทุนที่ยั่งยืนในระดับสูง แม้ว่า “การเพิ่มผลตอบแทนทางการเงินสูงสุด” ยังคงเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญลำดับต้นๆก็ตาม

 

 

ตามข้อมูลของ Morgan Stanley รายงานว่า นักลงทุนที่ตระหนักถึงการลงทุนด้านความยั่งยืนได้บรรลุผลต่ำกว่าเป้าหมายในปีที่แล้ว แต่ก็ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่ามีความสนใจในการลงทุนที่ยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงขอบเขตการลงทุนระยะยาวสำหรับนักลงทุนที่มุ่งเน้นด้านความยั่งยืนยังคงเป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจต้องให้ความสนใจ

นอกจากนี้ นักลงทุนประมาณสามในสี่เห็นพ้องกันว่า “แนวทางปฏิบัติ ESG ชั้นนำอาจนำไปสู่ผลตอบแทนที่สูงขึ้น และบริษัทดังกล่าวอาจเป็นการลงทุนระยะยาวที่ดีกว่า”

 

 

6 อุปสรรคและความกังวล
นักลงทุนติดกับดักหันหลังหุ้นยั่งยืน

 

รายงานยังตรวจสอบปัจจัยขับเคลื่อนหลักและอุปสรรคในการลงทุนที่ยั่งยืน โดยนักลงทุนอ้างถึงปัจจัยหลัก 6 ด้านคือ

-อัตราเงินเฟ้อ 56%
-การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศใหม่ 53% -ผลการดำเนินงานทางการเงิน 52%
-ความกังวลด้านการขาดความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในข้อมูลที่รายงาน 63%
-ความกังวลเกี่ยวกับการฟอกเขียว 61%
-ความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพการลงทุน 61%

สถานการณ์เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ลดความสนใจในการลงทุนที่ยั่งยืนลง และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมการลงทุนที่ยั่งยืนในพอร์ตการลงทุนของบางกลุ่มธุรกิจ

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา ผลสำรวจได้แนะนำความเห็นจากนักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการให้บริษัทต่างๆ แก้ไขปัญหาด้านความยั่งยืนดังนี้คือ
-แก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม 82%
-ควรแก้ไขปัญหาด้านสังคม 77%
-บูรณาการความเชื่อเข้ากับตัวเลือกการลงทุน สัดส่วน 80%

 

ทั้งนี้ได้มีการพิจารณารายงานของบริษัทเกี่ยวกับแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืน ในส่วนของปริมาณการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจก(Carbon Footprint) และเป้าหมายการลงทุนที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกในการลงทุนครั้งใหม่ พบว่า สัดส่วนนักลงทุน 58% มองว่าบริษัทมีแนวโน้มที่จะเลือกที่ปรึกษาทางการเงินหรือแพลตฟอร์มการลงทุนโดยพิจารณาจากข้อเสนอการลงทุนที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งรายงานว่าพวกเขาจะลงทุนในบริษัทพลังงานน่าสนใจหากมีแผนที่ชัดเจนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสัดส่วน 60% มองว่า นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะใช้คาร์บอนเครดิตสำหรับพอร์ตการลงทุนมากขึ้น

ที่มา
https://www.morganstanley.com/ideas/sustainable-investing-on-the-rise

Morgan Stanley Survey Finds Majority of Investors Planning to Increase Sustainable Investments This Year