กรุงศรีฯสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี เพื่อให้ SCGP เปลี่ยนผ่านธุรกิจไปสู่โอกาส ธุรกิจสีเขียว
ตามแผนการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนของประเทศ พร้อมกับการผลักดันให้ภาคธุรกิจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายมีความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี (Carbon Neutrality) 2050 (พ.ศ.2593) และ คาร์บอนเป็นศูนย์ในปี( Net Zero) ในปี 2065 (พ.ศ. 2568) โดยธนาคารกรุงศรี ได้มุ่งเน้นการสนับสนุนทางการเงินกับผู้ประกอบการด้านร ESG
โดยร่วมมือจาก MUFG กรุงศรี ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษาทางด้านสินเชื่อสีเขียว (Green Structuring Advisor) และเป็นผู้สนับสนุนทางการเงิน (Sole Lender) ให้กับสินเชื่อด้านธุรกิจสีเขียว (Green Loan) โดยใช้เกณฑ์คัดกรองทางเทคนิค (Technical Screening Criteria) ตามมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในกลุ่มประเทศอาเซียน (ASEAN Taxonomy) รวมถึงมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย (Thailand Taxonomy) จึงพัฒนากองทุนสินเชื่อสีเขียวไปใช้ลงทุนในโครงการที่กรอบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม (Green Financing Framework) เช่น โครงการด้านพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) โครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน (Energy Efficiency) และโครงการด้านการบริหารจัดการน้ำ (Water Management) เป็นต้น
นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า SCGP วางแผนดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามกรอบ ESG (สมดุลสิ่งแวดล้อม, สังคม และธุรกิจ) โดยมีธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นพันธมิตร สนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) วงเงินกู้ทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อนำไปพัฒนาธุรกิจสีเขียว โดยการเพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงทดแทน และเชื้อเพลิงหมุนเวียนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 20% ภายในปี 2573 จากปี 2563
การพัฒนาดังกล่าวจะทำให้เกิดการสร้างกระบวนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งต่อยอดการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ ถือเป็นส่วนสำคัญที่นำไปสู่การบรรลุผลตามเป้าหมายหลักในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กับบริษัท และความยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม
นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงศรีมุ่งสนับสนุนด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน (ESG Finance) อย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยส่งเสริมให้ภาคธุรกิจปรับตัวไปสู่ความยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสอดรับกับแผนการดำเนินงานลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ โดยธนาคารกรุงศรี ต้องการต่อยอดความร่วมมือฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ผ่านทางการสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) ให้กับ SCGP
“SCGP ถือเป็นองค์กรที่มีความแข็งแกร่งทั้งในด้านการเงินและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้ทั้งสองบริษัทบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และร่วมขับเคลื่อนประเทศสู่การพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป”
————————————————————–
เกี่ยวกับบริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP
ผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร นำเสนอทั้งบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษ (Fiber Packaging) บรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูง (Consumer and Performance Packaging) บรรจุภัณฑ์อาหาร (Foodservice Packaging) และผลิตภัณฑ์เยื่อและกระดาษ (Pulp and Paper Products) พร้อมโซลูชันการออกแบบ การพิมพ์ที่หลากหลาย เพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของคู่ค้า และสร้างคุณค่าเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดย SCGP มุ่งมั่นจุดประกายการดำเนินชีวิตรูปแบบใหม่ด้วยการเป็นบริษัทที่สนับสนุนให้ลูกค้า ผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม ได้ก้าวหน้าและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีบริษัทใน 9 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สหราชอาณาจักร สเปน เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา
เกี่ยวกับกรุงศรี
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในหกสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานถึง 78 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อรายย่อย การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 603 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 563 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 40 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 33,918 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 10 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)) อีกด้วย
กรุงศรีมีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ “แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต” โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเน