8 พรรค ลงนามเอ็มโอยู จัดตั้งรัฐบาล ร่วมกันทำนโยบาย 23 ข้อ ไม่ขัดต่อการดำรงอยู่ขององค์พระมหากษัตริย์

8 พรรค ลงนามเอ็มโอยู จัดตั้งรัฐบาล ร่วมกันทำนโยบาย 23 ข้อ ไม่ขัดต่อการดำรงอยู่ขององค์พระมหากษัตริย์


แกนนำ 8 พรรคการเมือง นำโดยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวลงนามเอ็มโอยู เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ระบุ ข้อตกลงทั้งหมดไม่ขัดต่อการดำรงอยู่ขององค์พระมหากษัตริย์

 

เมื่อเวลา 16.52 น. วันที่ 22 พฤษภาคม ที่โรงแรมคอนราด ถนนวิทยุ แกนนำ 8 พรรคที่ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (เอ็มโอยู) ในการจัดตั้งรัฐบาล โดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เปิดเผยว่า วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ สะท้อนความสำเร็จสังคมไทย สามารถเปลี่ยนผ่านระบบประชาธิปไตย เปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างสันติ ซึ่งข้อตกลงทั้งหมดไม่ขัดต่อการดำรงอยู่ขององค์พระมหากษัตริย์

โดยได้มีการเปิดเผยเอกสารทั้ง23ข้อ ดังนี้

1.ฟื้นฟูประชาธิปไตย รวมถึงจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนให้เร็วที่สุด โดยมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน

2. ยืนยันและผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อรับประกันสิทธิสมรสสำหรับคู่รักทุกเพศ โดยจะไม่บังคับประชาชนที่เห็นว่าขัดแย้งกับหลักการของศาสนาที่ตนนับถือ

3. ผลักดันการปฏิรูประบบราชการ ตำรวจ กองทัพและกระบวนการยุติธรรมให้สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย โดยยึดความโปร่งใส ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน

4. เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารแบบบังคับเป็นระบบสมัครใจ โดยให้มีการเกณฑ์ทหารเมื่อมีสงคราม

5. ร่วมผลักดันกระบวนการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนในจังหวัดชายแดนใต้ โดยคำนึงถึงหลักการด้านสิทธิมนุษยชน การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงทบทวนภารกิจของหน่วยงานและการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคง

6.ผลักดันการกระจายอำนาจทั้งในแง่ภารกิจและงบประมาณ เพื่อให้ท้องถิ่นตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และปราศจากทุจริต

7.แก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันโดยการสร้างระบบและวัฒนธรรมรัฐโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลรัฐในทุกหน่วยงาน

8. ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยยึดหลักเพิ่มรายได้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างระบบเศรษฐกิจที่้เติบโตอย่างเป็นธรรม

9. ยกเครื่องกฎหมายเกี่ยวกับการทำมาหากิน และการดำรงชีวิตของประชาชน เช่น ตัด ลด หรือพักใช้ชั่วคราวซึ่งใบอนุมัติ อนุญาตที่ไม่จำเป็นและเป็นอุปสรรคเพื่อปรับปรุงใหม่ ให้ความช่วยเหลือสภาพคล่องทางด้านการเงินและสร้างแต้มต่อให้ SME พร้อมมุ่งเน้นการเติบโตของ GDP ของ SME สนับสนุนอุตสาหกรรมและสินค้าไทยให้มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้

10.ยกเลิกการผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรมในทุกอุตสาหกรรม เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พรรคประชาชาติขอสงวนสิทธิในส่วนของแอลกอฮอล์ ด้วยหลักการทางศาสนา

11.ปฏิรูปที่ดินทั้งระบบ ด้วยการผลักดันกฎหมายปฏิรูปที่ดิน กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม แก้ปัญหาแนวเขตป่าไม้ของรัฐที่ทับซ้อนกับที่ดินของประชาชน รวมถึงการทบทวนคดีที่เป็นผลจากนโยบายทวงคืนผืนป่า

12.ปรับปรุงโครงสร้างการผลิตไฟฟ้า การคำนวณราคา และกำลังการผลิตที่เหมาะสม เพื่อลดค่าครองชีพประชาชนและสร้างความมั่นคงทางพลังงาน

13. จัดทำงบประมาณแบบใหม่ โดยเน้นวิธีการจัดงบประมาณฐานศูนย์ (zero-based budgeting)

14. สร้างระบบสวัสดิการดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงวัย โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและภาระทางการคลังระยะยาว

15.แก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเร่งด่วน

16.นำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดให้โทษ โดยมีกฎหมายควบคุมและรองรับการใช้ประโยชน์จากกัญชา

17. ส่งเสริมเกษตรและปศุสัตว์ปลอดภัย รักษาผลประโยชน์ของเกษตรกร ลดต้นทุนการผลิต ส่งเสริมการตลาด ส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยี และแหล่งน้ำ ส่งเสริมการรวมกลุ่มของเกษตรกรเพื่อวางแผนการผลิตและรักษาผลประโยชน์เกษตรกร ส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรเพื่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ

18.แก้ไขกฎหมายประมง ขจัดอุปสรรค เยียวยา ฟื้นฟู และพัฒนาอาชีพประมงให้ยั่งยืน

19. ยกระดับสิทธิแรงงานทุกอาชีพให้มีสภาพการจ้างงานที่เป็นธรรม และได้รับค่าแรงที่เป็นธรรมสอดคล้องกับค่าครองชีพและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

20.ยกระดับระบบสาธารณสุขเพื่อให้ประชาชน เข้าถึงระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพ ทั้งการส่งเสริม ป้องกัน รักษาและการฟื้นฟูสุขภาพ

21.ปฏิรูประบบการศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต

22.สร้างความร่วมมือและกลไกภายในและระหว่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นพิษ รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์โดยเร็วที่สุด

23. ดำเนินการนโยบายการต่างประเทศ โดยการฟื้นฟูบทบาทผู้นำของไทยในอาเซียน และเวทีระหว่างประเทศตามกรอบความร่วมมือต่างๆ โดยเฉพาะกรอบความร่วมมือพหุพาคี และรักษาสมดุล การเมืองระหว่างประเทศของไทยกับประเทศมหาอำนาจ

ทุกพรรคเห็นพ้องกันว่าจะร่วมกันบริหารประเทศด้วยแนวทางการปฏิบัติดังต่อไปนี้

1. ทุกพรรคจะคุ้มครองสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของประชาชนทุกคน

2. ทุกพรรคจะทำงานโดยซื่อสัตย์สุจริต หากมีบุคคลของพรรคใดมีพฤติกรรมทุจริต คอร์รัปชัน ทุกพรรคจะยุติการดำรงตำแหน่งของบุคคลนั้นๆ ทันที

3. ทุกพรรคจะทำงานโดยให้เกียรติซึ่งกันและกัน จริงใจต่อกัน สนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง มากกว่าผลประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่ง

4. ทุกพรรคมีสิทธิในการผลักดันนโยบายอื่นเพิ่มเติม แต่ไม่ขัดแย้งจากนโยบายในบันทึกข้อตกลงร่วมฉบับนี้โดยอาศัยอำนาจฝ่ายบริหารของรัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนของแต่ละพรรคการเมือง

5. ทุกพรรคมีสิทธิในการผลักดันนโยบายอื่นเพิ่มเติม แต่ไม่ขัดแย้งจากนโยบายในบันทึกข้อตกลงร่วมฉบับนี้โดยอาศัยอำนาจนิติบัญญัติของผู้แทนราษฎรที่สังกัดแต่ละพรรคการเมือง

ทั้งนี้ ในรายละเอียดของเอ็มโอยู ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ข้อ 2 ได้ระบุไว้ว่า เพื่อสร้างความสมานฉันท์ในสังคม ทุกพรรคจะร่วมผลักดันการอำนวยความยุติธรรมในคดีที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางการเมืองผ่านกลไกรัฐสภา ซึ่งได้ตัดออกไป

อย่างไรก็ตาม เอ็มโอยูที่ได้ประกาศในงานแถลงข่าว ได้เพิ่มข้อ 20 ในประเด็นยกระดับระบบสาธารณสุข

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

นายกฯ ชี้ตลาดเงินตลาดทุนผันผวนแค่ระยะสั้น จากปัจจัยตปท.-ช่วงตั้งรัฐบาลใหม่
https://www.thaiquote.org/content/250280

การชนะเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลทำให้นักลงทุนวิตกการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและวินัยทางการคลัง
https://www.thaiquote.org/content/250279

ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังลดจำนวนลงภาวะโลกร้อนและการใช้น้ำมากเกินไปคือต้นเหตุของปัญหา
https://www.thaiquote.org/content/250278