กลั้นปัสสาวะ พฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ

กลั้นปัสสาวะ พฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ

หลายท่านอาจเคยประสบเหตุรถติดบนถนนในเมืองใหญ่ หรือทำงานทั้งวันไม่มีเวลาหยุดพัก ต้องอดทนฝืนกลั้นปัสสาวะ เพราะสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยต่อการปลดปล่อย

 

พฤติกรรมนี้ก่อให้เกิดการติดเชื้อ เสี่ยงต่อการเป็นโรคส่งผลกระทบต่อสุขภาพในอนาคต โดยเฉพาะอวัยวะในระบบที่เกี่ยวข้องทำงานสัมพันธ์กันกับการขับถ่ายของเหลว ไม่ว่าจะเป็น ไต ท่อไต ท่อปัสสาวะ และหูรูด

กลไกการกลั้นปัสสาวะ

เมื่อเราดื่มน้ำเข้าไป จนของเหลวมีปริมาณครึ่งกระเพาะปัสสาวะ เส้นประสาทบริเวณนั้นจะกระตุ้นไปยังสมอง จึงรู้สึกปวดฉี่ แต่เมื่อยังไม่สามารถหาห้องน้ำ หรือที่ปลดปล่อยได้ สมองจะส่งสัญญาณกลับไปให้กลั้นเอาไว้ ทั้งนี้มีปัจจัยในการขับปัสสาวะที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับ อายุ ปริมาณ ช่วงเวลาของวัน ปกติแล้วจะไม่ค่อยปวดฉี่ในตอนกลางคืน เพราะ ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ รวมทั้งความถี่ในการขับของเสียที่มาจากความเครียด สามารถบอกโรคได้เช่นกัน โดยเฉพาะสุภาพสตรีหลังคลอดบุตร หรืออาจเกิดจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานไม่แข็งแรง

กลั้นปัสสาวะอันตรายไหม

หากร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี การกลั้นปัสสาวะในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบแต่อย่างใด ถึงอย่างไรก็ตามไม่ควรที่จะอั้นเอาไว้นาน เมื่อรู้สึกปวดก็เข้าห้องน้ำเลยจะเป็นผลดี

ทั้งนี้ผู้ที่ไม่ควรกระทำเลย จะทำให้อาการของโรคมีความรุนแรงขึ้น และติดเชื้อ ได้แก่

• ผู้ป่วยต่อมลูกหมากโต
• ภาวะกระเพาะปัสสาวะทำงานผิดปกติจากระบบประสาท
• โรคไต
• คุณแม่ตั้งครรภ์

ผลเสียจากการกลั้นปัสสาวะ

• กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
เพศหญิงมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย เพราะมีท่อที่ระยะสั้นกว่า เชื้อจึงเข้าสู่อวัยวะภายในได้ง่าย สังเกตได้จากเวลาฉี่ จะมีอาการแสบ ขัด หรือโลหิตไหลปนมาด้วย

• กรวยไตอักเสบ
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง สำหรับผู้ที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ จะมีอาการรุนแรง ลุกลามไปยังบริเวณไต มักจะเป็นไข้ สีปัสสาวะขุ่น ปวดเอว คลื่นไส้ และอาเจียน

การดูแลอวัยวะระบบทางเดินปัสสาวะ

• ปัสสาวะให้สุด อาจมีของเหลวตกค้าง และติดเชื้อแบคทีเรียได้ หากขมิบกล้ามเนื้อให้ปัสสาวะหยุดไหลแบบเร็ว ๆ
• ดื่มน้ำอย่างเหมาะสม อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
• หลีกเลี่ยงกาแฟ และน้ำอัดลม เพราะคาเฟอีนจะกระตุ้นให้ปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น
• ลดปริมาณการดื่มน้ำให้น้อยลงในช่วงเวลาก่อนเข้านอน
• สุขอนามัยทางเพศ ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศและทวารหนักภายนอกก่อนมีเพศสัมพันธ์ จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ และปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์ เพื่อขับแบคทีเรียออกมา
• ขมิบกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะได้ดีขึ้น
• เลิกสูบบุหรี่

วัยผู้ใหญ่ปกติทั่วไปจะมีปริมาณน้ำอยู่ในกระเพาะปัสสาวะมากกว่า 480 ซีซี หากมีปัญหาในระบบขับถ่ายปัสสาวะ หรือมีอาการผิดปกติใด ๆ ควรไปปรึกษาแพทย์และรับการตรวจรักษา เพื่อป้องกันภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งอาจเป็นอันตรายรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้.

ที่มา: โรงพยาบาลเพชรเวช

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

เตือน แขน ขา เคลื่อนไหวผิดปกติ ไม่เป็นจังหวะ ควรรีบพบแพทย์
https://www.thaiquote.org/content/249606

กรมการแพทย์ แนะรู้ทัน! โรคสมองส่วนหน้าเสื่อม (Frontotemporal dementia)
https://www.thaiquote.org/content/249593

ไวรัส HPV ตัวร้าย ติดง่ายกว่าที่คิด ถึงโสดก็เสี่ยง!
https://www.thaiquote.org/content/249576