เชื้อราภายในบ้าน เป็นสาเหตุของโรคระบบทางเดินหายใจ โดยกลุ่มเสี่ยงมักจะเป็นผู้ที่มีปัญหาด้านภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง เช่น เด็กเล็ก คนวัยชรา และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว
เชื้อรา คือจุลินทรีย์จำพวกเดียวกับเห็ด ยีสต์ มีความหลากหลายทางชีวภาพของมีถึง 100,000 ชนิด และก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพมากกว่า 100 ชนิด การย่อยสลายสิ่งมีชีวิตเป็นหน้าที่หลักของมันตามธรรมชาติ
เชื้อราเกิดขึ้นได้อย่างไร
การปล่อยสปอร์ที่ปลิวล่องลอยตามอากาศ รวมทั้งสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ ส่งผลให้เชื้อราเจริญเติบโตเป็นก้อนฟู ไม่ว่าจะเป็นลม น้ำฝน พื้นที่อับชื้น ออกซิเจน อุณหภูมิที่ไม่หนาว หรือร้อนจนเกินไป เหล่านี้คือปัจจัยที่ทำให้เชื้อราเกิดขึ้น รวมทั้งอินทรียวัตถุ ซากสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วนั้น เป็นอาหารของมัน เมื่อสิ่งต่างๆ เหล่านี้สามารถเข้ามาอยู่ในบ้าน หรือที่อยู่อาศัย ผ่านทางหน้าต่าง ประตู เครื่องใช้ปรับอากาศ
อันตรายจากเชื้อรา
หากสูดดม หรือสัมผัสทางผิวหนังเข้าไปแล้ว จะมีอาการต่างที่เป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้ ได้แก่
• มีไข้
• ปวดศีรษะ
• ระคายเคืองตา
• ตาอักเสบ
• คัดจมูก
• น้ำมูกไหลเจ็บคอ
• ผื่นแพ้
• คันตามผิวหนัง
• โรคระบบทางเดินหายใจ
• หลอดลมอักเสบ
• ไอกรน
• ปอดบวม
• ปอดอักเสบ
• วัณโรค
• หอบหืด
• มะเร็งปอด
• ถุงลมปอดโป่งพอง
การป้องกันเชื้อรา
• ทำความสะอาดเสื้อผ้าที่ใช้แล้วทันที
• ปัด กวาด ฝุ่น หรือหยักไย่ ทุกพื้นที่ของบ้าน
• ติดตั้ง และใช้งานพัดลมดูดอากาศ โดยเฉพาะบริเวณห้องน้ำ
• ตรวจสอบท่อน้ำหากมีการรั่ว สังเกตได้จากคราบเหลืองของสุขภัณฑ์
• เก็บของไว้ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก
• ใช้เครื่องปรับอากาศแบบกำหนดความชื้น
• ตรวจสอบฝ้า เพดาน หรือหลังคา ไม่ให้รั่วซึม
• เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสะดวก
• ในฤดูฝนควรปิดประตู และหน้าต่างให้มิดชิด
การกำจัดเชื้อรา
• เสื้อผ้า ผ้าม่าน และเครื่องนอน นำมาต้มในน้ำร้อนเดือด เพื่อฆ่าเชื้อรา จากนั้นนำมาซักให้สะอาดแล้วตากที่มีแสงแดด
• หมอน พรม และที่นอน นำไปกำจัดทิ้ง รวมทั้งนำเสื้อผ้าไม่ควรทำความสะอาดแล้วใช้ต่อ
• หนังสือ เอกสาร กระดาษต่างๆ นำไปตากแดด และใช้แปรงปัดฝุ่นออกให้หมด
• ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากหนัง ใช้น้ำส้มสายชู 5-7% ชุบผ้า และเช็ด ตามด้วยน้ำสะอาด สุดท้ายลงน้ำยาเคลือบผิวเครื่องหนัง
• ของใช้พลาสติก น้ำส้มสายชูปริมาณครึ่งถ้วย กับน้ำร้อน 1 แกลลอน แช่ลงไป 1 ชั่วโมง และล้างออก
• เฟอร์นิเจอร์วัสดุจากไม้ ล้างทำความสะอาดภายใน 1-2 วัน และนำมาตากแดด 1-2 สัปดาห์
• เครื่องปรับอากาศ ถอดแผ่นกรองอากาศออก เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
• ผนัง และกำแพง ใช้น้ำสบู่ แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาขัดห้องน้ำมาผสมกับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1 ถ้วยต่อน้ำ 3 ลิตร ขัดด้วยแปรงชนิดแข็ง ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จึงนำผ้าเปียกมาเช็ดอีกรอบ
• กระเบื้อง และปูนยาแนว ใช้น้ำยาซักผ้าขาว 1 300 มิลลิลิตร กับน้ำ 1 แกลลอน เช็ด และทิ้งไว้ 15-30 นาที
ที่มา: โรงพยาบาลเพชรเวช
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
“มะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง” ภัยร้ายที่ผู้หญิงทุกวัยไม่ควรละเลย
https://www.thaiquote.org/content/248838
ภูมิแพ้ VS ไข้หวัด VS ไข้หวัดใหญ่ VS โควิด-19 แยกให้เป็นไม่ตื่นตระหนก
https://www.thaiquote.org/content/248811
ทดสอบการแพ้อาหาร เช็กให้ชัวร์ก่อนกิน
https://www.thaiquote.org/content/248815