เปลี่ยนโฉมกทม. สู่ “Amazing Natural Park” ด้วย “สวนป่าเบญจกิติ”

เปลี่ยนโฉมกทม. สู่ “Amazing Natural Park” ด้วย “สวนป่าเบญจกิติ”

ความคืบหน้า “สวนป่าเบญจกิติ” พื้นที่สีเขียวแห่งใหม่ของ กทม. เตรียมเปิดใช้ในวันที่ 12 ส.ค.65 เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

 

โดยสวนดังกล่าว จะเปลี่ยนโฉมกรุงเทพมหานคร “Amazing Natural Park” เพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ

 

 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงการคลัง ได้แจ้งความคืบหน้าโครงการ “สวนป่าเบญจกิติ” ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อพ.ศ. 2534 ในการพัฒนาพื้นที่โรงงานยาสูบเดิม ในเนื้อที่ประมาณ 450 ไร่ ให้เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่

 

โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ สวนน้ำ เนื้อที่ 130 ไร่ และ สวนป่า เนื้อที่ 320 ไร่ โดยพื้นที่ส่วนน้ำได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ ในการนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเสด็จร่วมพิธีเปิด เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.57

 

 

สำหรับพื้นที่สวนป่า ได้แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 พื้นที่ 61 ไร่ ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในวันที่ 12 ส.ค.59 ซึ่งพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิด

 

ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุด สวนป่าเบญจกิติ ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ในพื้นที่ 259 ไร่ โดยมีการลงนาม MOU ระหว่างกรมธนารักษ์ และกองทัพบก เพื่อเริ่มดำเนินการจัดสร้างโครงการเมื่อวันที่ 26 ต.ค.63 ซึ่งได้แบ่งพื้นที่ก่อสร้างออกเป็น 2 ส่วน คือ

 

 

ส่วนที่ 1 มีพื้นที่ 160 ไร่ และส่วนที่ 2 มีพื้นที่ 103 ไร่ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมให้บริการในวันที่ 12 ส.ค.65 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

 

ทั้งนี้ การออกแบบสวนป่าเบญจกิติระยะที่ 2 และระยะที่ 3 พื้นที่ 259 ไร่ อยู่ภายใต้แนวคิดเพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการปลูกป่าในใจคน

 

 

ด้วยการส่งเสริมสวนป่าเบญจกิติให้เป็นสวนป่าสำหรับคนเมือง ในพื้นที่สวนสาธารณะที่มีความหลากหลาย ตอบสนองการใช้งานหลายรูปแบบ อาทิ อัฒจันทร์กลางแจ้งขนาดใหญ่ อัฒจันทร์ อาคารพิพิธภัณฑ์ ลานกิจกรรมแปลงนาสาธิต พื้นที่ออกกำลังกาย ทั้งอาคารกีฬาในร่ม เส้นทางปั่นจักรยาน และเส้นทางวิ่ง เป็นต้น

 

สวนป่าเบญจกิติยังมีการใช้พืชพันธุ์ที่หลากหลาย โดยมีพันธุ์ไม้หายากกว่า 350 ชนิด และมีไม้ดอกสวยงาม ที่ออกดอกตามฤดูกาล ทำให้เป็นสวนป่าที่มีสีสันและมีชีวิตชีวาตลอดทั้งปี

 

 

พร้อมกับโครงการเชื่อมต่อสวนสาธารณะบริเวณใกล้เคียงกันในใจกลางเมือง กทม. บริเวนณย่านสุขุมวิท อาทิ สวนลุมพินี เพื่อเป็นการเชื่อมโยงชุมชนเมือง ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของคนในชุมชนอีกด้วย เพื่อเป็นต้นแบบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชิงนิเวศในเมืองที่จะส่งผลต่อการพัฒนาพื้นที่สีเขียวอื่น ๆ ใน กทม. ต่อไป

 

 

นอกจากนี้ยังได้มีการเสนอแนวทางการปลูกพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย เพื่อสร้างสีสันให้เมือง การจัดให้มีพี้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง ที่จอดรถ การเชื่องโยงการกับการเดินทางสาธารณะ รวมทั้งติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ รวมทั้งกล้องวงจรปิด เพื่อดูแลความปลอดภัย ซึ่งในอนาคต จะมีการเชื่อมโยงกับสวนลุมพินี และสวนสาธารณะอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกันด้วย ซึ่งจะเป็นการปรับโฉมกรุงเทพมหานคร ให้เป็นเมือง Amazing Natural Park ด้วย