นักวิจัยนาโนเทค สวทช. ช่วย “บ้านไม้หอมฮิโนกิ ไชยปราการ” ใช้เทคโนโลยีการห่อหุ้ม (Encapsulation) และการออกแบบกระบวนการเคลือบเส้นใย พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยนวัตกรรม “หมอนอโรม่าฮิโนกิ” ที่ใช้เทคโนโลยีเคลือบที่เส้นใยพิเศษ ล็อคกลิ่นหอมนานถึง 6 เดือน
“ไม้ฮิโนกิ” เป็นไม้ที่มีกลิ่นอโรมาเธอราพี ช่วยให้เกิดความมั่นคงทางอารมณ์ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายๆ ด้าน ทั้งนี้เนื้อไม้ยังสามารถป้องกันเชื้อรา และแบคทีเรีย

“อนิรุทธิ์ จึงสุดประเสริฐ” ผู้ก่อตั้ง บริษัท บ้านไม้หอมฮิโนกิ ไชยปราการ จำกัด จึงตั้งใจสร้างบ้านจากไม้หอมฮิโนกิขึ้นที่ ต.ปงตำ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ดำเนินกิจการผลิตและจัดจำหน่ายที่นอนและหมอนเพื่อสุขภาพจากไม้ฮิโนกิ ก่อนขยายสู่อาณาจักรฮิโนกิแลนด์ (Hinoki Land) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมปราสาทและหมู่บ้านโบราณของคนญี่ปุ่น ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสถานที่
รวมถึงจำหน่ายสินค้าที่มีจุดเด่นด้านคุณค่าเชิงวัฒนธรรมและมีมูลค่าสูงในกลุ่มเครื่องนอนเพื่อสุขภาพ เช่น หมอนและที่นอนเพื่อสุขภาพที่มีกลิ่นหอม แต่เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 นักท่องเที่ยวลดลง จนกระทบต่อรายได้
“โครงการ “เส้นใยเคลือบด้วยแคปซูลกลิ่นหอมสำหรับผลิตภัณฑ์เคหะสิ่งทอ” เป็นโจทย์และความต้องการจาก บ้านไม้หอมฮิโนกิ ไชยปราการ ที่ต้องการพัฒนาสินค้าสิ่งทอกลิ่นหอมให้มีความหลากหลาย ตรงกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงมีความคงทนของกลิ่นหอมให้ยาวนานขึ้น สามารถเก็บรักษาและซักล้างทำความสะอาดได้ตามปกติ” “ดร.วรล อินทะสันตา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยวัสดุผสมและการเคลือบนาโน ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งขาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าว

ทีมวิจัยนวัตกรรมเส้นใยนาโนจากนาโนเทคเริ่มพัฒนากระบวนการเคลือบแคปซูลกลิ่นหอมให้มีการเกาะติดบนเส้นใยและคงทนต่อสภาวะที่มีการขยี้/ขัดถู หรือได้รับแรงกด หรือเมื่อผ่านการซักจำลองโดยซักตามมาตรฐาน AATCC135:2015 (Dimensional Changes of Fabrics after Home Laundering) ซึ่งความคงทนดังกล่าว เป็นสมบัติที่สำคัญในกรณีที่เส้นใยถูกบรรจุในเครื่องนอนที่มีความจำเป็นต้องซักล้างระหว่างการใช้งานจริง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ยังคงมีกลิ่นหอมที่ยาวนาน

นอกจากสารเคลือบที่มีองค์ประกอบหลักเป็นแคปซูลที่บรรจุน้ำมันหอมระเหยหรือน้ำหอมแล้ว ยังพัฒนากระบวนการเคลือบที่ใช้เวลาสั้นและต้นทุนต่ำเพื่อช่วยให้น้ำหอมสามารถตรึงแน่นบนเส้นใยได้อย่างสม่ำเสมอ และนำไปสู่ผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่มีประสิทธิภาพและราคาที่แข่งขันได้
ตามผลการทดสอบความคงทนของกลิ่นโดยผู้เชี่ยวชาญของหน่วยวิจัยทางประสาทสัมผัสและผู้บริโภค ม.เกษตรศาสตร์ (Kasetsart University Sensory and Consumer Research Center: KUSCR) ภาควิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร ม.เกษตรศาสตร์ พบว่าผลจากแคปซูลช่วยปกป้องและควบคุมการระเหยของกลิ่นน้ำหอมที่บรรจุภายใน

แต่หากพื้นผิวของเส้นใยที่ผ่านการเคลือบนั้นถูกสัมผัสหรือได้รับแรงเสียดสี แคปซูลจะค่อยๆ แตกและส่งกลิ่นหอมที่เข้มข้นออกมา โดยกระบวนการเคลือบที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้แคปซูลน้ำหอมมีปริมาณการเกาะติดที่ดีและทนทาน แม้ผ่านสภาวะการซักหรือการขัดถู
ดังนั้น ผลจากการวิจัยและพัฒนาขึ้นใหม่ ทำให้ได้เส้นใยที่มีกลิ่นหอมติดทนนานถึง 6 เดือน จากการทดสอบอายุการใช้งานในสภาะเร่งต่างๆ ทั้งการอบในตู้ที่มีอุณหภูมิสูง และการกดทับด้วยแรงกระแทก ตลอดจนการนำไปซักด้วยเครื่องซักผ้าตามมาตรฐาน

“หมอนสุขภาพฮิโนกิ เป็นหมอนที่มีเอกลักษณ์ มีกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากเยื่อไม้สนฮิโนกิ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มรักสุขภาพให้การตอบรับค่อนข้างดี แต่ก็ยังคงสร้างข้อสงสัยให้กับลูกค้า เช่น ลูกค้ามักจะถามว่า กลิ่นจะอยู่ได้นานแค่ไหน หรือซักแล้วกลิ่นจะหายไปหมดเลยไหม ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าวจะช่วยแก้ไขจุดด้อยของตัวสินค้า เพื่อให้ลูกค้าได้เกิดความมั่นใจที่จะเลือกซื้อสินค้า” น.ส.ดาวรุณี ต๋าคำ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บ้านไม้หอมฮิโนกิ ไชยปราการ จำกัด กล่าว

สำหรับหมอนอโรม่าฮิโนกิ ได้ทำการวิจัยกลิ่นเพิ่มเติมจาดเดิมที่มีเพียงกลิ่นไม้ฮโนกิ คือ กลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นซากุระ และกลิ่นมะลิ มุ่งเน้นกลิ่นที่ผ่อนคลาย จะตอบโจทย์วิถีชีวิตในปัจจุบันที่เคร่งเครียด หรือความต้องการเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายจากการทำงาน การเรียน หรือเมื่อต้อง Work from Home (WFH)โดยคาดว่า จะเปิดตัวสินค้าตัวใหม่นี้จะเปิดตัวภายในปี 65
นอกจากนี้ นวัตกรรมเส้นใยเคลือบกลิ่นหอมยังสามารถประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์สิ่งทอได้หลากหลาย รวมถึงผลิตภัณฑ์เคหะสิ่งทอ อาทิ หมอนและเครื่องนอน, ตุ๊กตา, เครื่องเรือนเครื่องใช้ในบ้าน (เบาะ, โซฟา) เป็นต้น
สร้างโอกาสในการเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการ รวมถึงเป็นการสร้างสรรค์อัตลักษณ์ใหม่ๆ ให้กับสินค้านั้น ๆ ซึ่งบริษัท บ้านไม้หอมฮิโนกิ ไชยปราการ จำกัด มีแผนขยายไลน์ธุรกิจแบบ B2B ตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่ต้องการผลิตภัณฑ์เครื่องนอนกลิ่นหอม อาทิ ธุรกิจโรงแรม สปา เป็นต้น
