6 สินค้าเกษตรแห่งอนาคต ปลูกเสริมทดแทน ข้าว ยางพารา มัน

6 สินค้าเกษตรแห่งอนาคต ปลูกเสริมทดแทน ข้าว ยางพารา มัน


สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร แนะ 9 จังหวัดภาคตะวันออก รวมทั้งพื้นที่ไม่เหมาะสม เจอน้ำท่วม เกิดโรคระบาดซ้ำซาก ปลูกพืชสินค้าเกษตรทางเลือกทดแทน ข้าว ยางพารา และมันสำปะหลัง

 

นายชัฐพล สายะพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี (สศท.6) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ตามแนวทางบริหารจัดการพื้นที่ตามแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri – Map) 9 จังหวัด ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก สระแก้ว ตราด สมุทรปราการ

 

สศท.6 ได้ศึกษาสินค้าเกษตรทางเลือกที่มีอนาคต (Future Crop) พบว่า ไผ่ หญ้าเนเปียร์ โกโก้ มะพร้าวน้ำหอม มะม่วงน้ำดอกไม้ และกุ้งก้ามกราม เป็น 6 สินค้าสำคัญที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่าการผลิตข้าว ยางพารา และมันสำปะหลัง ในพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N)

รวมทั้งพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยพิบัติซ้ำซากและพื้นที่เกิดโรคระบาดสะสม ทั้งนี้ เพื่อให้เกษตรกรใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการปรับเปลี่ยนการผลิตสินค้าเกษตรทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนสูงในพื้นที่ไม่เหมาะสม

 

หากพิจารณาผลตอบแทนสุทธิจากการผลิตสินค้าเกษตรในพื้นที่เหมาะสม (S1,S2) และพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) ของข้าว ยางพารา และมันสำปะหลัง พบว่า

– ข้าวนาปี (ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สมุทรปราการ สระแก้ว ตราด) ในพื้นที่เหมาะสม (S1,S2) ได้ผลตอบแทนสุทธิ 1,643 บาท/ไร่ ส่วนพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) ได้ผลตอบแทนสุทธิ 644 บาท/ไร่

– ข้าวนาปรัง (ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สมุทรปราการ สระแก้ว ตราด) ในพื้นที่เหมาะสม (S1,S2) ได้ผลตอบแทนสุทธิ 1,213 บาท/ไร่ ส่วนพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) ได้ผลตอบแทนสุทธิ 687 บาท/ไร่

– ยางพารา (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด) ในพื้นที่เหมาะสม (S1,S2) ได้ผลตอบแทนสุทธิ 3,515 บาท/ไร่ ส่วนพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) ได้ผลตอบแทนสุทธิ 48 บาท/ไร่ 

– มันสำปะหลัง (ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชลบุรี และสระแก้ว) ในพื้นที่เหมาะสม (S1,S2) เกษตรกรได้ผลตอบแทนสุทธิ 1,639 บาท/ไร่ ส่วนพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) เกษตรกรขาดทุน 85 บาท/ไร่

 

หากพิจารณาสินค้าเกษตรทางเลือกทั้ง 6 ชนิด ที่สามารถปลูกเสริมหรือทดแทนได้ สามารถจำแนกเป็นรายชนิด ดังนี้

 

1.ไผ่ ต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 11,212 บาท/ไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 7,921 บาท/ไร่ พื้นที่เป้าหมายในการปลูก ได้แก่ จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก และสระแก้ว พบว่าหน่อและกิ่งพันธุ์ไผ่มีเพียงพอกับปริมาณความต้องการ แต่ในส่วนของลำ เดิมผลิตได้เพียง 819,070 ลำ

 

ในขณะที่ปริมาณความต้องการใช้มากถึง 6,776,000 ลำ ยังขาดปริมาณผลผลิต จำนวน 5,956,930 ลำ ควรส่งเสริมการปลูกไผ่เพื่อใช้ลำ จำนวน 11,914 ไร่

2.หญ้าเนเปียร์ ต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 25,929 บาท/ไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 4,687 บาท/ไร่ พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ จ.สระแก้ว และรอยต่อในอ.สอยดาว จ.จันทบุรี เดิมสามารถผลิตได้ จำนวน 477,523 ตัน ในขณะที่ปริมาณความต้องการใช้ในพื้นที่เป้าหมาย มีจำนวน 1,468,563 ตัน ซึ่งยังขาดปริมาณผลผลิต จำนวน 991,040 ตัน ควรส่งเสริมอีกจำนวน 36,328 ไร่

 

3.โกโก้ ต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 10,218 บาท/ไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 9,138 บาท/ไร่ พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ จ.จันทบุรี ตราด และระยอง เดิมสามารถผลิตได้ จำนวน 2,141 ตัน และมีพื้นที่ปลูกแล้วยังไม่ให้ผลอีกจำนวน 1,290 ตัน ในขณะที่ปริมาณความต้องการใช้ มีจำนวน 22,158 – 27,158 ตัน ซึ่งยังขาดปริมาณผลผลิต จำนวน 20,868 – 25,868 ตัน ควรส่งเสริมการปลูกเพิ่มประมาณ 16,231 – 20,120 ไร่

 

4.มะพร้าวน้ำหอม ปลูกแบบสวนเดี่ยว มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 11,236 บาท/ไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 23,228 บาท/ไร่ หากปลูกแบบขอบบ่อหรือผสมนาข้าว มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 4,403 บาท/ไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 11,689 บาท/ไร่ พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ จ.ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ชลบุรี และระยอง เดิมผลิตได้ จำนวน 30,382 ตัน ในขณะที่ปริมาณความต้องการมีจำนวน 43,300 ตัน ยังขาดอีก จำนวน 12,918 ตัน ควรส่งเสริมการปลูก จำนวน 4,300 ไร่

5.มะม่วงน้ำดอกไม้ ต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 11,548 บาท/ไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 13,687 บาท/ไร่ พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ จ.สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สมุทรปราการ และอ.สอยดาว อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เดิมผลิตได้ จำนวน 70,000 ตัน ซึ่งปริมาณของผลผลิตมีความสมดุลกับความต้องการของตลาด

 

6.กุ้งก้ามกราม ต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 36,705 บาท/ไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 8,417 บาท/ไร่ พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ จ.ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชลบุรี นครนายก และสมุทรปราการ เดิมผลิตได้ จำนวน 2,828 ตัน ในขณะที่ปริมาณความต้องการ มีจำนวน 2,952 – 4,428 ตัน ซึ่งยังขาดปริมาณผลผลิต จำนวน 124 – 1,600 ตัน ควรส่งเสริมให้เลี้ยงประมาณ 714 – 9,217 ไร่

 

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมด้านข้อมูลพืชทางเลือกในพื้นที่ภาคตะวันออก สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.6 โทร.03 835 1398 หรืออีเมล [email protected]