ต้นทศวรรษที่ 20 เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ต้องเผชิญกับภัยแล้งอย่างรุนแรง ในขณะที่ปี 2560 ระดับน้ำในเขื่อนได้ลดลงสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
ด้วยเหตุนี้รัฐบาลเมืองซิดนีย์ ได้ตระหนักถึงสถานการณ์ความมั่นคงของแหล่งน้ำทั้งในปัจจุบัน และอนาคต เพื่อรองรับจำนวนของประชากรที่คาดว่าจะเพิ่มจาก 4.7 ล้านคน เป็น 8 ล้านคนในอีก 40 ปีข้างหน้า
โดยการแสวงหาแนวทางการอนุรักษ์และจัดการน้ำในเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นที่มาของแผน Sustainable Sydney 2030 และแผนแม่บท Decentralised Water Master Plan เพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของประชากร
ทีมสถาปนิก Turpin + Crawford Studio ได้ออกแบบพื้นที่เมืองและโครงสร้างพื้นฐานการอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมและความเป็นชุมชนอย่างกลมกลืน โดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ การกักเก็บน้ำ และการหมุนเวียนนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ร่วมกับนักนิเวศวิทยาจาก Dragonfly Environmental ผลักดันโครงการ Sydney Park Water Re-Use Project
Sydney Park Water Re-Use Project เป็นโครงการด้านการกักเก็บน้ำฝนที่ใหญ่ที่สุดของซิดนีย์ ก่อสร้างขึ้นในพื้นที่สวนสาธารณะ Sydney Park ซึ่งอดีตเคยเป็นเขตอุตสาหกรรมที่ถูกทิ้งร้าง มีพื้นที่รวมกว่า 44 เฮกตาร์ หรือประมาณ 275 ไร่
การก่อสร้างได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน ถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ด้านการจัดการน้ำ โดยมีเป้าหมายการนำน้ำจากพื้นที่แห่งนี้ไปใช้เป็นน้ำหมุนเวียนภายในเมืองให้ได้ 10% ก่อนปี 2573
ด้วยการออกแบบให้สวนสาธารณะ สามารถกักเก็บน้ำและบำบัดน้ำฝนได้ รวมทั้งนำน้ำเสียจากสถานที่ต่างๆเช่น สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือ การล้างรถของสถานีบริการ มาผ่านกระบวนการที่มีเครื่องมือต่างๆเข้ามาช่วย อาทิ เครื่องมือช่วยเติมอากาศ (aeration devices) ตัวช่วยดักจับมลพิษ ระบบกักเก็บน้ำชีวภาพ (bio-retention systems) ขนาด 5,000 ตร.ม.และการสร้างพื้นที่ชุ่มน้ำ
ทำให้ซิดนีย์สามารถรีไซเคิลน้ำฝน เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้เฉลี่ยมากกว่า 8 ล้านแกลลอน หรือ 85 ล้านลิตรต่อปี น้ำที่ผ่านการบำบัดนี้ จะได้รับการกรองและการฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวีอีกครั้ง ก่อนที่จะนำไปใช้ในระบบชลประทานของเมือง
ผลจากโครงการดังกล่าว จะช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งได้โดยตรง ที่ทำให้มีน้ำเพียงพอสำหรับระบบชลประทานในพื้นที่ต่าง ๆ ของเมือง เป็นแหล่งน้ำที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมการซักรีด ผู้ผลิตสิ่งทอ โรงงานผสมคอนกรีต และโรงงานรีไซเคิลโลหะ
นอกจากนี้ระบบการบำบัดน้ำยังช่วยป้องกันน้ำที่ยังไม่ได้ผ่านการบำบัดไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ อย่าง อ่าว Botany Bay ได้อีกด้วย
ขณะเดียวกัน การพัฒนาสวนสาธารณะในโครงการนี้ ยังช่วยฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์เฉพาะถิ่น รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ความสำคัญของระบบบริหารจัดการน้ำ
Sydney Park จึงกลายเป็นสถานที่สำหรับรีไซเคิลนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ นันทนาการ และที่อยู่อาศัยของชุมชน ที่ผสมผสานกันทำให้เรื่องราวเกี่ยวกับน้ำมีชีวิตชีวา และเป็นมิติใหม่สำหรับการบริหารจัดการน้ำ เพื่อต่อสู้กับภัยแล้งอย่างยั่งยืน
