เอาใจคนรักและชื่นชอบการดื่มกาแฟ กับ “กาแฟดงมะไฟ” อีกหนึ่งผลิตผลิตเกษตรอินทรีย์จากชุมชน ที่มีความพิเศษได้รับการจัดให้เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย ในพื้นที่อุทยานธรณีโคราช (Khorat Geopark)
“กาแฟดงมะไฟ” เป็นกาแฟพันธุ์อาราบิกา ปลูกในพื้นที่ 300 ไร่ ของเทือกเขาอีโต้ (เขาเควสต้า) บ้านดงมะไฟ ต.มะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟอาราบิก้าและมะคาเดเมียแบบประชาอาสาบ้านดงมะไฟ
สำหรับ บ้านดงมะไฟ ถูกขนานนามว่า แหล่งเพชรดำ และ ทองคำขาว เป็น หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ จ.นครราชสีมา อยู่ห่างจาก กทม. 250 ก.ม. ถูกห้อมล้อมด้วยผืนป่าแหล่งต้นน้ำลำธาร ที่ระดับความสูง 400 – 700 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง
ด้วยตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์นี้ ทำให้กาแฟดงมะไฟ มีอัตลักษณ์ รสชาติกลมกล่อม กลิ่นหอม มีระดับสารคาเฟอีน 1% ตามธรรมชาติ และได้รับการจดขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สินค้าตามสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย (Thai Geographical Indication) หรือ GI ซึ่งเหมาะสำหรับนักดื่มที่ต้องการดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนต่ำ
โดยการนำพืชเกษตรที่สูงมาปลูกในพื้นที่นี้ สามารถสร้างป่าต้นน้ำลำธารที่ดี สร้างงานรายได้ แหล่งเรียนรู้ ความเข้มแข็งของชุมชน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้เรียนรู้อัตลักษณ์ของชุมชนผ่าน “พิธีรับขวัญแม่กาแฟ” ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
ล่าสุด “กาแฟดงมะไฟ” ได้เข้าสู่กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน “นวัตอัตลักษณ์” เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงเกษตรบนพื้นฐานงานวิจัยและความหลากหลายทางชีวภาพ พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนแบบยั่งยืน
โดยความร่วมมือของ สถานีวิจัยลำตะคอง สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เกษตรจังหวัดนครราชสีมา สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนครราชสีมา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา
“สถานีวิจัยลำตะคอง เป็นหน่วยงานในส่วนภูมิภาคของ วว. ซึ่งมีหน้าที่วิจัย ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านเกษตร เป็นแหล่งรวบรวมพันธุกรรมพืชและแมลงเพื่อการอนุรักษ์ สร้างจิตสำนึก การเรียนรู้ และใช้ประโยชน์ และสนับสนุนการสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เชิงอนุรักษ์ และการท่องเที่ยวแบบมีส่วนร่วม บนฐานความรู้จากงานวิจัยและความหลากหลายของทรัพยากรชีวภาพ ช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกร และประชาชนในพื้นที่จ.นครราชสีมา” “สายันต์ ตันพานิช รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ วว. กล่าว
โครงการดังกล่าวได้เชื่อมโยงการท่องเที่ยวในพื้นที่โดยรอบสถานีวิจัยลำตะคอง เป็นเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ประกอบด้วย กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟอาราบิก้าและมะคาเดเมียแบบประชาอาสาบ้านดงมะไฟ ,สวนผักกูดปากช่อง ซึ่งปลูกผักกูดอินทรีย์ และ “Campsite CHAN” บริการลานกางเต็นท์ในสวนผลไม้ พร้อมเยี่ยมชมแปลงปลูกไม้ผลและพืชผักตามฤดูกาล เช่น อะโวคาโด้ ทุเรียน น้อยหน่า ขนุน หน่อไม้ฝรั่ง ผักสลัด เป็นต้น
.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ สถานีวิจัยลำตะคอง วว. จ.นครราชสีมา Facebook fanpage : สถานีวิจัยลำตะคอง
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ
นวัตกรรม “โฟม” รักษ์โลก จากคนไทย ลดขยะ ช่วยขนส่งปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
