คุณค่าของสิ่งของ ไม่อาจมองได้แค่เพียงภายนอก… เช่นเดียวกับ ผักบุ้งทะเล (Beach morning glory) พืชที่สามารถพบเห็นได้ง่ายตามชายหาดทั่วไป ในยามปกติอาจดูด้อยค่าไร้ราคา เหมือนวัชพืชชนิดอื่น แต่หากเกิดถูกพิษของแมงกะพรุน พืชดังกล่าวกลับมีคุณค่าขึ้นมาทันตาเห็น เหตุเพราะ ผักบุ้งทะเล คือสมุนไพรแก้พิษแมงกะพรุนได้อย่างชะงัด ตามแบบภูมิปัญญาท้องถิ่น
วันนี้ด้วยการประยุกต์ใช้ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีแปรรูป สามารถที่เปลี่ยนพืชธรรมดาอย่าง “ผักบุ้งทะเล” ให้เป็นสารสกัดรักษาพิษแมงกะพรุน และแมลงกัดต่อยอื่นๆ ช่วยสร้างมูลค่าให้กับชุมชน และลดการนำเข้าเวชภัณฑ์จากต่างประเทศได้
ผลงานการวิจัยพัฒนาเพื่อพึ่งพาการใช้เทคโนโลยีภายในประเทศ โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้ริริ่มวิจัยและทำการผลิต “ผลิตภัณฑ์รักษาพิษแมงกะพรุนจากผักบุ้งทะเล” สู่เชิงพาณิชย์
“ภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้ ผักบุ้งทะเล ในการรักษาพิษบาดแผลที่เกิดจากแมงกะพรุน โดยใช้น้ำที่คั้นจากใบพอกลงบนบาดแผลที่ถูกแมงกะพรุน และน้ำต้มจากใบยังใช้อาบแก้คันได้ด้วย วว.จึงนำเอาผักบุ้งทะเล มาทำวิจัยต่อยอดให้ห้องปฏิบัติการผ่านกระบวนการสกัดสารที่มีฤทธิ์ทางยา พบว่า น้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้จากใบ มีคุณสมบัติด้านฤทธิ์ฮีสตามีนและพิษแมงกระพรุน”
“เมื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจากความร่วมมือของ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล แล้ว พบว่า มีผลรักษาแผลในผู้ป่วยจากพิษแมลงกัดต่อย และจากพิษแมงกระพรุนในทุกระดับได้เป็นที่น่าพอใจ” ศ.(วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าว
นอกจากนี้ วว. ยังได้วิจัยต่อสำเร็จดังกล่าวต่อเนื่อง ร่วมกับ คณะเภสัชศาสตร์ ม.อุปซอลา (Uppsala University) ประเทศสวีเดน พบว่า น้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้จากใบผักบุ้งทะเล มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านพิษแมงกะพรุนได้ดี โดยยับยั้งการทำลายโปรตีน (Proteolytic) และ hemolytic ของพิษแมงกะพรุน การศึกษาทางเคมีพบว่า ในน้ำมันหอมระเหยประกอบด้วยสารออกฤทธิ์สำคัญหลายสาร เช่น ยูจีนอล (Eugenol) บีต้า-ดามาสซีโนน (β-damascenone) และ อี-ไฟทอล (E-phytol) เป็นต้น
งานวิจัยนี้ ได้ขยายผลการวิจัยเพื่อศึกษาคุณภาพของวัตถุดิบ และประเมินความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ เพื่อพัฒนาน้ำมันหอมระเหยขึ้นสู่ขั้นอุตสาหกรรม พบว่า ผักบุ้งทะเลที่ปลูกในพื้นที่ริมชายฝั่งทะเล จะมีความเข้มข้นของสารสกัดมากกว่าการปลูกในพื้นที่ที่ห่างจากทะเล
สำหรับงานวิจัยดังกล่าว วว. พร้อมที่จะถ่ายทอดให้กับผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนที่สนใจ ซึ่งสามารถผลักดันให้เกิดการนําไปใช้ประโยชน์ทั้งเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพิ่มมูลค่าสมุนไพรไทย ที่สำคัญคือการสร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยใช้ต้นทุนจากภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
