วว.จับมือ Dow สร้างชุมชนต้นแบบ “ตาลเดี่ยวโมเดล” จัดการขยะชุมชนอย่างยั่งยืน

วว.จับมือ Dow สร้างชุมชนต้นแบบ “ตาลเดี่ยวโมเดล” จัดการขยะชุมชนอย่างยั่งยืน

วว.ร่วมมือกับ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ปรับเทคโนโลยีสู่การพัฒนาคุณภาพขยะพลาสติกในชุมชนอย่างยั่งยืน ประยุกต์ใช้ต้นแบบ “ตาลเดี่ยวโมเดล” สร้างศูนย์คัดแยกขยะใช้แล้วและแปรรูป “Waste Sorting Hub” โดยชุมชนในพื้นที่ภาคตะวันออก เล็งขยายผลไปยังชุมชนทั่วประเทศ ช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกในชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

 

 

ศ.(วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กล่าวว่า วว. ร่วมกับ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ภายใต้โครงการ “วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม นำสู่การพัฒนาคุณภาพขยะพลาสติกในชุมชนอย่างยั่งยืน” มีระยะเวลาความร่วมมือ 3 ปี ผ่านการดำเนินงาน 5 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย

1) ยกระดับศูนย์คัดแยกพลาสติกใช้แล้วเพื่อพัฒนาร้านรับซื้อของเก่าด้วยชุมชน โดยเน้นการจัดการพลาสติกใช้แล้ว รวมถึง เทคโนโลยีการแปรรูปขยะเศษอาหารและของเหลือทิ้งภาคการเกษตร โดยจะนำร่องที่จ.ระยอง

2) สร้างมาตรฐานพลาสติกรีไซเคิลโดยวิธีการและเครื่องมือ เพื่อตรวจสอบและตรวจวัดคุณภาพพลาสติก เช่น การตรวจสอบความหนาแน่น / วิธีตรวจวัดโดยชุมชน

 

 

3) พัฒนาหลักสูตรด้าน “การจัดการขยะให้เป็นศูนย์” เน้นการจัดการองค์ความรู้ ด้านการจัดการขยะด้วยหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน

4) การใช้เครื่องมือ online เน้นการพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพื่อส่งเสริมการจัดการขยะที่เชื่อมต่อระหว่างชุมชนและผู้ประกอบการที่มีความพร้อมอย่างเป็นรูปธรรม
ละ 5) ถอดบทเรียนความสำเร็จการจัดการขยะชุมชนที่สำเร็จ เพื่อทำเป็นคู่มือสำหรับนำไปขยายผลในชุมชนอื่นๆต่อไป

 

 

จากความสำเร็จของ วว. โดยศูนย์เชี่ยวชาญพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม ที่ได้พัฒนาเทคโนโลยีจัดการขยะชุมชน จนเกิดเป็นศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีจัดการขยะชุมชนอาคารคัดแยกขยะ ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี หรือ “ตาลเดี่ยวโมเดล” เป็นรูปแบบของการบริหารจัดการขยะที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ให้เหมาะสมในแต่ละขั้นตอนการผลิตและแปรรูปซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ชุมชนเข้าถึงและสามารถดำเนินการได้เอง

โดยมีเทคโนโลยีหลัก 3 ส่วน ได้แก่ 1.ชุดคัดแยกขยะระบบกึ่งอัตโนมัติแบบเบ็ดเสร็จ ประกอบด้วย 1.เครื่องคัดแยกขยะรองรับปริมาณขยะเก่าและขยะใหม่กำลังการผลิต 20-40 ตัน/วัน พร้อมด้วยระบบกำจัดกลิ่นขยะ ระบบคัดแยกชนิดและสีพลาสติกบรรจุภัณฑ์ เพื่อแปรรูปเป็นวัตถุดิบรอบสองที่มีคุณภาพ ระบบผลิตก๊าซชีวภาพเพื่อบำบัดมลพิษทางน้ำ และระบบการบำบัดน้ำชะขยะโดยใช้สารเร่งตกตะกอน ระบบผลิตปุ๋ยอินทรีย์และสารปรับปรุงดิน

 

 

2. ชุดคัดแยกชนิดและสีพลาสติกด้วยระบบ NIR และ Vision พร้อมระบบผลิตเกล็ดพลาสติกกำลังการผลิต 100 กก./ชม. ซึ่งสามารถแยกชนิดและสีพลาสติกด้วยระบบ NIR และ Vision สามารถแยกพลาสติก PVC ออกจากพลาสติกชนิดอื่นได้ และผลิตเกล็ดพลาสติกที่สะอาดมีคุณภาพ

3. นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพร่วมกับสารปรับปรุงดิน ประกอบด้วยระบบผลิตก๊าซไบโอมีเทนอัดถัง ระบบผลิตสารปรับปรุงดินชนิดน้ำ และระบบผลิตเชื้อเพลิงขยะคุณภาพสูง (RDF5) จากขยะชุมชนและของเหลือทิ้งภาคการเกษตร

นอกจากนี้ วว. ยังได้ยังพัฒนาแอปพลิเคชัน ที่สามารถเชื่อมโยงและส่งเสริมการจัดการขยะระหว่างชุมชนและผู้ประกอบการ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ กลับคืนสู่ชุมชน

 

โดย วว.ได้นำองค์ความรู้งานวิจัยและการจัดการขยะแบบครบวงจรไปถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ชุมชน และ อปท.ในจ.ระยอง ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี เกิดชุมชนต้นแบบที่เป็น Waste sorting hub และในอนาคตและยกระดับเป็นสถานีการจัดการขยะชุมชนที่เป็น Junk Shop
ด้าน นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันพบว่าปริมาณขยะในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งปริมาณขยะพลาสติกเพิ่มขึ้นถึง 15% โดยปริมาณขยะพลาสติกเฉลี่ยจากวันละ 5,500 ตัน เพิ่มเป็น 6,300 ตัน/วัน

แต่สามารถนำเข้าสู่ระบบรีไซเคิลได้เพียง 23% เท่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันขยะพลาสติกหลุดรอดออกสู่สิ่งแวดล้อม และลดปัญหาการสะสมขยะในชุมชน รัฐบาลจึงได้มีเป้าหมายในการนำขยะพลาสติกกลับมารีไซเคิล 100% ภายในปี 2570 เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนระบบรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาขยะอย่างยั่งยืน Dow และ วว. จึงได้นำความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 องค์กรมาบูรณาการร่วมกัน โดยเริ่มจากการต่อยอดในชุมชนต้นแบบที่ทั้ง 2 องค์กรได้เคยดำเนินการไปก่อนหน้านี้ ก่อนจะขยายผลไปสู่ชุมชนอื่น ๆ ในอนาคต

 

เรื่องที่น่าสนใจ

กรมอุทยานฯ เตือน นักท่องเที่ยว จับ “ดาวทะเล” ระวังโทษหนัก จำคุก5 ปี ปรับ 5แสนบาท