“เสือลายเมฆ” โผล่ในรอบ 20 ปี ป่าเทือกเขาพนมดงรัก

“เสือลายเมฆ” โผล่ในรอบ 20 ปี ป่าเทือกเขาพนมดงรัก

ข่าวดี! พบเสือลายเมฆครั้งแรกในรอบ 20 ปี แถบป่าเทือกเขาพนมดงรัก สัตว์ป่าคุ้มครองใกล้จะสูญพันธุ์ ตอกย้ำความสำเร็จด้านการลาดตระเวนเพื่อคุ้มครองพื้นที่ป่า

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รายงานว่า นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย.63 เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนสำรวจและติดตามความหลากหลายทางสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขสป.พนมดงรัก ได้ดำเนินการเก็บกล้องดักถ่าย Camera Tap ซึ่งติดตั้งดักถ่ายไว้ระหว่างวันที่ 1-24 พฤศจิกายน 2563 พบสัตว์ป่าที่สำคัญปรากฎในกล้องดักถ่าย อาทิเช่น เสือลายเมฆ กวาง เนื้อทราย เก้ง หมูหริ่ง แมวดาว หมาไน หมาจิ้งจอก นกโกโรโกโส และนกยางลายเสือ เป็นต้น

นายชัยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสัตว์ที่พบเป็นชนิดสัตว์ป่าที่พบใหม่ 1 ชนิด คือ เสือลายเมฆ พบในบริเวณเส้นทางเข้าทุ่งกบาลกะไบ ซึ่งทุ่งกบาลกะไบ ในปัจจุบันนับแต่มีการปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติ ตั้งแต่ ปี 2558 สัตว์ป่าที่ปล่อยได้รับการดูแล โดยมีการจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งน้ำ แหล่งอาหาร ที่เพียงพอแก่สัตว์ป่า และนำไปสู่การแพร่พันธุ์ตามธรรมชาติ และสัตว์ป่าเพิ่มจำนวนมากขึ้น

โดยเริ่มจากสัตว์ผู้ล่าขนาดเล็ก อาทิ หมาไน หมาจิ้งจอก แมวดาว เข้ามาอาศัยในพื้นที่เพื่อล่าสัตว์ที่อ่อนแอเป็นอาหาร จนกระทั่งในวันนี้ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ ขสป.พนมดงรัก พบ “เสือลายเมฆ” ซึ่งเป็นสัตว์ผู้ล่าขนาดกลาง เข้ามาอาศัยในพื้นที่

ทั้งนี้ “เสือลายเมฆ” เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ ในประเทศไทย โดยให้ป่าแถบนี้ไม่เคยพบเสือลายเมฆมาก่อน ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 20 กว่าปี นับจากจากการสู้รบกันในเขตชายแดนไทย -กัมพูชา และถือเป็นครั้งสำคัญ ซึ่งทำให้พิสูจน์ได้ว่า “โครงการปล่อยสัตว์ป่า คืนวนาเพื่อป่าสมบูรณ์” ประกอบกับ “การลาดตระเวนเชิงคุณภาพ smart patrol” ที่ได้มีกำชับให้เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนอย่างเข้มข้นมาโดยตลอด ช่วยให้สัตว์ป่าเหล่านี้รอดพ้นจากภัยคุกคาม และนำมาซึ่งความหลากหลายทางสัตว์ป่าและพันธุ์พืชอีกครั้ง

ทั้งนี้ เสือลายเมฆ (Clouded leopard) อยู่ในวงศ์เสือและแมว เป็นเสือขนาดเล็ก รูปร่างโดยทั่วไปคล้ายเสือดาวแต่เล็กกว่า รูปร่างเตี้ยป้อม ลำตัวมีสีพื้นน้ำตาลอมเทาจนถึงน้ำตาลเหลือง ช่วงล่างและขาด้านในสีขาวหรือสีครีม มีลายสีน้ำตาลเข้มเป็นดวงเหมือนก้อนเมฆขนาดใหญ่ทั่วตัว ตั้งแต่หัว ขา และหาง ดวงบางดวงอาจมีจุดดำอยู่ภายในดวงด้วย แต่ละดวงมีส่วนที่ค่อนไปทางท้ายลำตัวคล้ำกว่า ดวงบริเวณหัวและขาจะมีขนาดเล็กและอาจเป็นเพียงจุดทึบตัน ที่หลัง แก้ม และคอเป็นเส้นสีดำ หูสั้นกลม หลังหูสีดำและมีจุดสีขาวอมน้ำตาลกลางหลังหู ขาค่อนข้างสั้น ขาหลังยาวกว่าขาหน้าอย่างเห็นได้ชัด อุ้งตีนกว้าง

หางยาวมากและฟู มีลายเป็นปล้อง ปลายหางสีดำหรือสีเทา หางยาวเกือบ 90 เซนติเมตร เขี้ยวยาว 3.8-4.5 เซนติเมตร นับว่ายาวที่สุดในจำนวนเสือทั้งหมดในโลก ด้านหลังเขี้ยวคมมาก ตัวเต็มวัยมีน้ำหนักประมาณ 10-20 กิโลกรัม ความยาวลำตัว 750-1,100 มิลลิเมตร แม้จะมีขนาดเล็กกว่าเสือชนิดอื่น ๆ แต่เสือลายเมฆมีสัดส่วนของกะโหลกคล้ายกับเสือชนิดอื่น ๆ จัดเป็นเสือที่มีขนาดเล็กที่สุด

 

เสือลายเมฆชอบอาศัยและพักผ่อนบนต้นไม้ เป็นนักปีนชั้นเยี่ยม มีข้อตีนที่พลิกหมุนได้ ห้อยโหนกิ่งไม้ด้วยขาหลังเพียงอย่างเดียวแล้วปล่อยให้หัวห้อยลงมาได้ ไต่กิ่งไม้แบบห้อยตัวอยู่ใต้กิ่งไม้ที่เอนเกือบขนานกับพื้นได้ เปรียบเทียบฝีมือการปีนป่ายกับเสือดาวแล้วเสือลายเมฆจะเก่งกว่า แม้เสือดาวจะปีนต้นไม้เก่ง แต่ก็ไม่ถนัดในการจับเหยื่อบนต้นไม้ แต่เสือลายเมฆเคยมีรายงานว่าไล่จับลิงบนต้นไม้ได้ อย่างไรก็ตาม เสือลายเมฆล่าเหยื่อบนพื้นดินมากเท่า ๆ กับบนต้นไม้

สัตว์ที่เสือลายเมฆชอบล่าได้แก่ ลิง หมูป่า กวางขนาดเล็ก ชะมด เม่น กระรอก นก ปลา แพะ สัตว์เลี้อยคลาน ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในประเทศไทยก็เคยมีรายงานว่าเสือลายเมฆจับลิงกังและชะนีกิน
เนื่องจากเป็นเสือชนิดที่มีลวดลายสวยงาม จึงตกเป็นที่ต้องการของมนุษย์เสมอ ๆ ทั้งล่าเพื่อเอาหนัง และนำไปเป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่งพฤติกรรมเมื่อเป็นสัตว์เลี้ยงโดยมนุษย์แล้ว ปรากฏว่าเสือลายเมฆมีพฤติกรรมที่ไม่ดุและค่อนข้างเชื่องมากกว่าเสือหรือแมวป่าชนิดอื่น ๆ สถานะปัจจุบันตามกฎหมายไทย เสือลายเมฆจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทที่ 1 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 และสถานะในไซเตสจัดอยู่ในบัญชีหมายเลข 1

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“พญาเสือ” บุกสำนักสงฆ์ รวบพระเลี้ยงสัตว์ป่า 9 ชนิด 25 ตัว