ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ มาตรการ“ช้อปดีมีคืน” ช่วยเศรษฐกิจแค่ระยะสั้น ประโยชน์ส่วนใหญ่ได้กับเจ้าใหญ่ในระบบภาษี ไม่ถึง SME โดยตรง
จากประชุม ศบศ.เห็นชอบในหลักการมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” เพื่อให้กลุ่มผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือกลุ่มผู้ประกอบการสามารถลดหย่อนภาษี เงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2563 เมื่อใช้จ่ายถึง 3 หมื่นบาท ที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบถึง 1.2 แสนล้านบาท นั้น
ล่าสุด ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ออกมาวิเคราะห์ถึงนโยบายดังกล่าว โดยระบุว่า การที่ภาครัฐได้ออกมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” เพื่อกระตุ้นการบริโภค โดยให้การใช้จ่ายในช่วง 23 ต.ค.-31 ธ.ค.2563 รวมเวลา 70 วัน สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุด 30,000 บาท นัั้น
มาตรการดังกล่าว น่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคในช่วงไตรมาส 4/2563 ได้ หากมีผู้เสียภาษีเข้าร่วมโครงการ 1.85-4.0 ล้านคน จะส่งผลให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจถึง 55,500 – 120,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากรวมกับมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลออกมาก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นมาตรการคนละครึ่ง และมาตรการเติมเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มอีกเดือนละ 500 บาท รวมถึงการทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยว จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2563 มีแนวโน้มดีขึ้น และหดตัวลดลงเมื่อเทียบกับ 2 ไตรมาสก่อนหน้า

ทั้งนี้ มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” น่าจะช่วยให้เกิดการระบายสินค้าคงคลังที่มีอยู่สูง อีกทั้งจะช่วยผลักดันยอดขายและเพิ่มสภาพคล่องของผู้ประกอบการต่างๆ ให้ดีขึ้น นอกจากนี้ การจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้น จะช่วยสร้างบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น
โดยในภาพรวม ภาคค้าปลีกน่าจะได้รับผลประโยชน์จากมาตรการนี้มากที่สุด ในขณะที่ยอดใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นน่าจะส่งผลดีต่อภาคธนาคาร เนื่องจากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตน่าจะขยายตัวมากขึ้น
อย่างไรก็ดี คาดว่ามาตรการ “”ช้อปดีมีคืน”” จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้เพียงชั่วคราว และคงมีผลประโยชน์ต่อการจ้างงานค่อนข้างจำกัด เนื่องจากผู้ผลิตสินค้าอาจจะยังไม่พิจารณาการกลับมาผลิตเพิ่ม หากอุปสงค์ยังไม่กลับมาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ผู้ได้รับประโยชน์ส่วนใหญ่ น่าจะเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่อยู่ในระบบภาษี ส่วนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) อาจไม่ได้รับประโยชน์โดยตรงเท่าใดนัก และเมื่อการฟื้นตัวของการบริโภค หลังจากที่มาตรการหมดลงไปแล้ว คงกลับมาขึ้นอยู่กับ แรงขับเคลื่อนพื้นฐานของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การท่องเที่ยว รายได้จากการจ้างงาน และรายได้ภาคการเกษตร เป็นสำคัญ
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลเปิดมาตรการใหม่ “ช้อปดีมีคืน” พร้อมยืด “เราเที่ยวด้วยกัน” ถึงปีหน้า
