บิ๊กตู่ขอเจ้าหน้าที่อย่ารุนแรงใส่ม็อบ แต่รับ “ผมอดทนถึงที่สุดแล้ว”

บิ๊กตู่ขอเจ้าหน้าที่อย่ารุนแรงใส่ม็อบ แต่รับ “ผมอดทนถึงที่สุดแล้ว”


นายกฯ ยันชุมนุมได้ แต่เสียหายมาต้องมารับผิดชอบร่วมกัน อย่าโยนบาปให้รัฐบาลฝ่ายเดียว เตือนกฎหมายบ้านเมืองมีอย่าละเมิดฝ่าฝืน ชี้รัฐไม่ต้องการรุนแรง แต่ม็อบอย่าทำอะไรที่ต้องไปสู่จุดนั้น

วันที่ 17 กันยายน 2563 – ก่อนการชุมนุมใหญ่ทางการเมืองในวันที่ 19 กันยายน 2563 ของกลุ่มม็อบเยาวชนคนรุ่นใหม่ ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ก็ออกมาเปิดเผยถึงประเด็นนี้ โดยก่อนอื่นระบุว่าได้มอบหมายให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กำกับดูแลการชุมนุมในภาพรวม และให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย และย้ำให้ต้องปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมด้วยความนุ่มนวล

“กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติกับผู้ชุมนุมด้วยความนุ่มนวล เพราะในม็อบก็ลูกหลานคนไทยทั้งนั้น แต่ขอร้องให้ม็อบรู้ว่าอะไรควร และไม่ควร สถานที่ราชการต่างๆ มีกฎหมายอยู่แล้ว ก็อย่าทำให้เกิดปัญหาจนมีการกระทบกระทั่งกัน แต่อาจจะมีหลายคน หลายฝ่ายพยายามทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อนำไปสู่ความบานปลาย รัฐบาลไม่ต้องการแบบนี้ แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ชุมนุมด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำด้วยว่าไม่ได้ขู่ใคร แต่ประเทศมีกฎหมาย เราอยู่กันด้วยหลักการและเหตุผล หากทุกคนตั้งใจจะฝ่าฝืนกฎหมาย คนทั้งประเทศจะยอมหรือไม่ เพราะมันอาจจะมีผลกระทบกับคนอื่นๆ ไปด้วยเช่นกัน ซึ่งยืนยันว่านายกฯ ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับผู้ชุมนุม แต่หากต้องการจะชุมนุมก็ทำได้ตามสิทธิ์ แต่หากการกระทำที่จะทำให้บ้านเมืองเดือดร้อน เสียหาย ก็ขอให้มีจิตสำนึกเรื่องนี้ด้วย เพราะทุกคนก็คือคนไทย หากประเทศเกิดปญหาโดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังมีผลกระทบ ก็ต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันด้วย คงไม่ใช่รัฐบาลที่จะรับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียว หลักการจุดนี้ต้องเข้าใจด้วย

“ที่ผ่านมาผมอดทนมาอย่างยิ่งยวด พยายามอดทนหาทางออกที่เหมาะสมให้ เพื่อทำอย่างไรให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ หลายฝ่ายหลายส่วนก็ยังเดือดร้อนเรื่องเศรษฐกิจ หากมีอะไรที่วุ่นวายเกิดขึ้นมันจะดีขึ้นหรือเปล่า ถ้ามันไม่ดีใครล่ะจะมาช่วยดูแลกันต่อไป ใครล่ะจะรับผิดชอบ อยากให้คิดกันให้ครบถ้วน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ ย้ำถึงสิทธิ์การชุมนุมว่าทำได้ แต่สิทธิ์ของคนอื่นก็ต้องเข้าใจด้วย สถานที่ราชการก็อย่าเข้าไปเพราะเป็นกติกาของประเทศ เป็นกฎหมายของประเทศที่ทุกคนจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์จากการกระทำ อย่างที่เขาพูดว่า “You get what you pay” ภาษาฝรั่งเขาพูดอย่างนี้ ท่านทำอะไรท่านได้อย่างนั้น ตัวเองไม่ได้เดือดร้อน แต่ประเทศชาติเดือดร้อน คนอื่นเดือดร้อน ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้ในเมื่อทุกคนบอกรักชาติ รักประเทศ ต้องการจะแก้ไขประเทศก็ต้องเริ่มจากการแก้ไขตัวเองเสียก่อนว่าจะต้องแก้ไขตัวเองอย่างไร จะต้องเข้าใจกันอย่างไร ถ้าเริ่มต้นในสิ่งที่ขัดแย้งกันตลอด มันก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ฉะนั้นวันนี้เราต้องมองไปข้างหน้า โดยสืบสานตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนปุ๊บเลยทีเดียวแล้วเป็นแบบนั้นเลย ลองไปดูว่าทำได้หรือไม่ กฎหมายเป็นอย่างไร วิธีการทำงานเป็นอย่างไร

ฉะนั้นหลายคนก็พูดออกมา แล้วทำให้เกิดความเชื่อมั่น เชื่อถือ โดยที่ไม่ได้รู้ว่าสิ่งที่พูดมาแล้วนั้น มันเป็นอันตราย หรือมันทำได้หรือไม่ได้ แต่ทุกคนก็พูดให้เพื่อเป็นการปลุกเร้าคนเหล่านี้ ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด เราผ่านบทเรียนมามากพอสมควรแล้ว ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดมาหลายครั้งแล้ว และบางครั้งคนเดิมๆเขาอยู่ และวันนี้ก็ยังทำเช่นนั้นอยู่ ซึ่งทุกคนทราบดี ผมคงไม่ไปเอ่ยถึงใครให้มีปัญหากันอีก แต่ทุกคนต้องมีจิตสำนึก ตราบใดที่ทุกคนยืนในประเทศไทยก็ต้องคิดร่วมกันทำให้ประเทศชาติ ประชาชนปลอดภัย การพัฒนาประเทศเดินไปข้างหน้า”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า หลายส่วนหลายอย่างทุกคนต้องยอมรับว่ามีความก้าวหน้า บางอย่างทำได้เร็ว บางอย่างไม่ได้ก็ต้องแก้กันต่อไป ตนคิดว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่นำทุกอย่างมาแก้ไข ปัญหาอุปสรรคในอดีตที่ผ่านมา และเดินหน้าประเทศได้หลายมิติ ฉะนั้นให้ความเป็นธรรมด้วย จากการทำงานของรัฐบาล ไม่ว่าตนจะมาอย่างไรก็ตาม แต่คิดว่าตนได้ทำหลายอย่างให้กับประเทศไทย มันเป็นการทำงานตามหน้าที่ ในเมื่อตนเป็นนายกฯก็ต้องทำหน้าที่ของตนเอง และไม่ต้องการให้ใครมาชื่นชม ตนภูมิใจตัวเองว่าทำสิ่งเหล่านี้เพื่อใคร ก็ทำเพื่อคนไทย เพื่อลูกเพื่อหลาน 67 ล้านคนในปัจจุบัน ฉะนั้น ขอให้นึกถึงคนอีก 60 กว่าล้านคน เขาจะลำบากหรือไม่ เขาจะเดือดร้อนไหม ถ้าประเทศชาติเกิดความวุ่นวาย และต่างชาติจะเป็นอย่างไร ซึ่งวันนี้เราได้เตรียมการท่องเที่ยวในการนำคนเข้ามา เพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น

นายกฯกล่าวว่า ขอถามว่า ถ้าทุกอย่างหยุดวันนี้แล้วใครจะทำ แล้วจะทำได้หรือไม่ ฉะนั้นลองมองและสื่อสารทั้ง 2 ทางแล้วมาวิเคราะห์ ใคร่ครวญดูว่าจะทำอย่างไรกัน ตนถือว่าเป็นความรับผิดชอบของคนไทยทุกคน บ้านเมืองก็มีปัญหาเยอะอยู่พอสมควรแล้ว ตนก็พยายามแก้ให้มากที่สุด และวันนี้ก็ได้มอบรางวัลคนดีๆก็มีเยอะ คนที่ตั้งใจทำงานก็เยอะ และเยอะกว่าคนไม่ดี ส่วนคนไม่ดีก็ต้องแก้และทำให้ตัวเองเป็นคนดีขึ้น ให้สังคมยอมรับมากยิ่งขึ้นมันก็แค่นั้น สังคมมันเป็นอย่างนี้ ถ้าเรามัวแต่ขัดแย้งกันไปมา หรือทำงานเริ่มต้นด้วยความขัดแย้ง มันก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ไม่ว่าใครจะมา หรือจะไป มันก็ทะเลาะกันอยู่แบบนี้ แล้วตนถามว่าประเทศชาติจะอยู่ได้ไหม ที่เราเรียกว่าศักยภาพของประเทศไทยมีมากมายทุกคนรู้ดี แต่หลายคนอาจจะไม่เข้าใจ จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ มันทำลายศักยภาพและโอกาสของประเทศไทยในเวทีโลกและของเราเอง ฉะนั้นอันนี้เป็นสิ่งที่อยากจะฝากไปยังประชาชน พ่อแม่ พี่น้อง ทุกคน และที่นอกเหนือจากกลุ่มที่ชุมนุมเหล่านี้ได้เข้าใจว่าจะช่วยเหลือบ้านเมืองกันได้อย่างไรในเวลานี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการชุมนุมเคลื่อนมาใกล้เขตพระราชฐาน นายกฯจะให้ข้อคิดอย่างไรบ้าง นายกฯตอบว่า “กฎหมายคือกฎหมาย”

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“บิ๊กตู่” การันตี เศรษฐกิจยังไปได้สวย แผนลงทุน EEC มาตามเป้า