ส่องกฎเหล็กเลี้ยงลูกยุคดิจิทัล สไตล์ “บิล เกตส์”

ส่องกฎเหล็กเลี้ยงลูกยุคดิจิทัล สไตล์ “บิล เกตส์”

“บิล เกตส์” เผยกฎเหล็ก ห้ามลูกใช้สมาร์ทโฟนจนอายุ 14 ปี

นายบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี “ไมโครซอฟท์” ของสหรัฐ เผยว่า ครอบครัวของเขาใช้กฎเหล็กห้ามลูกๆ เล่นอุปกรณ์ไฮเทคจนกว่าจะอายุ 14 ปี เพื่อให้พักผ่อนได้อย่างเพียงพอ

ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อไอทีผู้ก่อตั้ง Microsoft แต่ บิล เกตส์ ก็ยังตั้งกฎห้ามลูกๆ ของตัวเองเล่นสมาร์ทโฟนมากเกินไปในแต่ละวัน เขาเปิดเผยว่า ลูก ๆ ทั้ง 3 คนของเขา เติบโตโดยอยู่ห่างจากอุปกรณ์ดิจิทัล เพราะเขาไม่ต้องการให้เด็กๆ แตะต้องสมาร์ทโฟนจนกว่าอายุครบ 14 ปี และมีกฏเหล็กห้ามติดนิสัยเล่นสมาร์ทโฟนระหว่างรับประทานอาหารด้วย

 

 

เขาเคยให้สัมภาษณ์อยู่บ่อยครั้งว่าเขามีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในหลายๆ ด้าน แต่ที่สำคัญมาก คือการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเยาวชน “ผมพยายามจะมองหาวิธีการใช้งานอุปกรณ์ดิจิตอลในทางบวกเสมอ เช่น ติดต่อหาเพื่อนฝูง หรือช่วยเด็กๆ ทำการบ้าน”

ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะให้ลูกๆ ของเขาเริ่มใช้งานสมาร์ทโฟนได้ตอนที่อายุ 14 ขึ้นไปแล้วเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ลูกทั้งสามคนของเขาก็อายุเกินแล้ว และยังกำหนดระยะเวลาในการใช้งานที่เหมาะสมด้วย

 

 

เจ้าพ่อไมโครซอฟท์ บอกอีกว่า เขาและภรรยามักจะกำหนดเวลาที่ลูกๆ ต้องหยุดเล่นสมาร์ทโฟนและให้มีวินัยกับเวลาเข้านอนที่เหมาะสมในแต่ละวัน ผู้คนส่วนใหญ่มักจะคิดตักตวงประโยชน์จากการใช้สมาร์ทโฟนให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะหาคำตอบการบ้านหรือว่าแชทกับเพื่อน แต่ครอบครัวเขาพยายามให้ลูกห่างไกลจากอุปกรณ์เหล่านี้ในช่วงที่เขากำลังเติบโต ซึ่งหมายความว่า เขาจะไม่อนุญาตให้ลูกของเขาเล่นสมาร์ทโฟนก่อนนอนเลย เพราะมันอาจจะทำให้ลูกๆ ของเขานอนดึก

“ลูกๆของผมกลับมาบ่นเสมอเรื่องที่เป็นเพื่อนของพวกเขาได้ใช้สมาร์ทโฟนก่อนพวกเขา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงเพราะบ้านเราก็ยังคงใช้กฎเดิมอยู่เช่นเคย”

 

 

ซึ่งผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยเบอร์เบ็คในกรุงลอนดอนของอังกฤษ เตือนถึงโทษของการให้เด็กเล่นอุปกรณ์ไฮเทค โดยพบว่า เด็กอายุ 6-11 เดือนที่เล่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตระบบหน้าจอสัมผัสนั้นจะนอนน้อยกว่าเด็กที่ไม่ได้เล่น โดยเล่นสมาร์ทโฟนหนึ่งชั่วโมง จะทำให้เด็กนอนน้อยลงไปเฉลี่ย 15.6 นาที

ด้านดร.ทิม สมิธ ผู้ร่วมเขียนงานวิจัยบอกว่า สำหรับผู้ใหญ่แม้การนอนน้อยไป 10 นาทีไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก แต่สำหรับเด็กแรกเกิดที่ทุกวินาทีคือการสร้างเซลล์สมองถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะได้รับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

 

 

ทั้งนี้แม้ว่างานวิจัยจะชี้ว่า สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตส่งผลกระทบต่อการนอนของเด็ก แต่นักวิจัยก็คิดว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าห้ามเด็กเล่นโดยเด็ดขาด อีกทั้งวิทยาศาสตร์ที่ใช้อธิบายกระบวนการนอนของเด็กว่าเกี่ยวข้องกับหน้าจอสัมผัสนั้นก็ถือว่ายังใหม่มาก

ต้องบอกว่านโยบายการเลี้ยงดูของบิล เกตส์ และเมลินดา เกตส์ ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายการเลี้ยงลูกของพ่อแม่ในยุคนี้ ท่ามกลางโลกในยุคดิจิทัลที่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตกลายเป็นสิ่งแรกๆ ที่เด็กๆ มองหาหลังจากลืมตาตื่นนอนทุกเช้า และการใช้เวลาอยู่กับหน้าจอในแต่ละวันมากเกินไป ทำให้เด็กขาดทักษะการปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างในชีวิตจริง

เรื่องนี้ทำให้เราเห็นว่า การเป็นลูกคนรวยไม่ได้หมายความว่าจะต้องถูกเลี้ยงดูแบบตามใจให้ทุกอย่างเสมอไป จริงมั๊ย “บิล เกตส์”

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เหตุเพราะโควิด “Greentech” นวัตกรรมเปลี่ยนโลกสีหม่น ให้เป็นสีเขียว