โพลชี้ คนส่วนใหญ่เห็นด้วยแก้ไขรัฐธรรมนูญ แนะรัฐบาลชัดเจน เร่งดำเนินการ

โพลชี้ คนส่วนใหญ่เห็นด้วยแก้ไขรัฐธรรมนูญ แนะรัฐบาลชัดเจน เร่งดำเนินการ


สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจความคิดเห็น ปชช. ร้อยละ 59.11 ชี้ การชุมนุมประท้วง เป็นการเรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตย ร้อยละ 62.84 เห็นด้วยแก้ไขรัฐธรรมนูญ

23 ส.ค.63 นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า สวนดุสิตโพล สรุปผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “การชุมนุมประท้วงของนักศึกษา ณ วันนี้” กลุ่มตัวอย่าง 197,029 คน สำรวจระหว่างวันที่ 16 – 21 สิงหาคม 2563 พบผลที่สำคัญคือ

กลุ่มตัวอย่างเห็นว่าการประท้วงของนักศึกษา ณ วันนี้ เป็นการเรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตย ร้อยละ 59.11 ไม่ควรจาบจ้วงสถาบันฯ 41.76% เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้ชุมนุม 40.41%

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ 3 ข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง พบว่า กลุ่มตัวอย่างเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 62.84% (ไม่เห็นด้วย 24.85%) เห็นด้วยกับการเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภาหรือลาออก 53.88% (ไม่เห็นด้วย 38.43%) และเห็นด้วยกับการเรียกร้องให้หยุดคุกคามประชาชน 59.47% (ไม่เห็นด้วย 29.19%)

จากผลโพลดังกล่าว จะเห็นได้ว่า กลุ่มตัวอย่างมีมุมมองต่อการชุมนุมประท้วงว่าเป็นการใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย เป็นการชุมนุมของคนรุ่นใหม่ที่กล้าแสดงออก ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางที่ดีขึ้น แต่การชุมนุมนั้นก็ต้องเคารพในสิทธิของผู้อื่น มีความเป็นสุภาพชน ไม่จาบจ้วงสถาบันฯ

ทั้งนี้ ยังเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะอาจมีผู้ไม่หวังดี และในภาพรวมกลุ่มตัวอย่างเห็นด้วยกับการเรียกร้องชุมนุม 53.71% และไม่เห็นด้วย 41.17%

ขณะที่ นายธนภัทร ปัจฉิมม์ คณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ให้ข้อมูลว่า ผลการสำรวจของสวนดุสิตโพลต่อกรณี การชุมนุมประท้วงของนักศึกษาในครั้งนี้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่อาจปฏิเสธได้ว่านี่เป็นผลิตผลทางรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่องประชาธิปไตยโดยแท้ ที่รับรองสิทธิ เสรีภาพการชุมชน และการประท้วงของประชาชนหรือนักศึกษาที่มีต่อรัฐบาลหรือสถาบันทางการเมืองอื่นๆ อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิเสรีภาพดังกล่าว ก็จำต้องสำเหนียกด้วยว่าไม่ควรให้เกินเลยกรอบของกฎหมายบ้านเมือง

ในขณะที่ผลการสำรวจส่วนใหญ่ต่อข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นประเด็นที่น่าสนใจ และรัฐบาลจึงควรใช้โอกาสนี้ทำสัญญาประชาคมและกำหนด Timeline ให้ชัดเจนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และดึงภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วม หากข้อเรียกร้องดังกล่าวนี้ล่าช้าเกินควรหรือไม่ได้รับการสนองตอบจากรัฐบาลจะยิ่งทำให้เกิดความเร่งเร้าและเกิดข้อเรียกร้องให้รัฐบาลต้องยุบสภาหรือลาออก หรืออาจจะมีการออกมาขับไล่รัฐบาลเหมือนดั่งเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็เป็นได้

ดังนั้น รัฐบาลควรรับฟังข้อเรียกร้องต่างๆ ผ่านผลการสำรวจนี้ เพื่อเป็นข้อมูลในการคิด วิเคราะห์และนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อแก้ไขสถานการณ์มิให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

บิ๊กป้อมให้ตำรวจจัดการแกนนำม็อบ “ถ้าไม่มีกฎหมายเราจะอยู่กันอย่างไร”