ผบ.ทบ.เตือนม็อบ-สภา ใช้วาจาจาบจ้วงผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่เหมาะสม หวั่นทำคนไทยไม่พอใจ

ผบ.ทบ.เตือนม็อบ-สภา ใช้วาจาจาบจ้วงผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่เหมาะสม หวั่นทำคนไทยไม่พอใจ


“บิ๊กแดง”ถึงนักศึกษา ชุมนุมไม่ห้าม-ไม่ติดใจ แต่เตือนใช้วาจาทั้งในม็อบในสภา “ไม่เหมาะสม” อาจทำคนไทยไม่สบายใจ

วันที่ 24 กรกฎาคม 2563 – พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงการเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่มนิสิตนักศึกษาโดยพล.อ.อภิรัชต์ ระบุว่า ประชาชนคนไทยทุกคนเป็นราษฎรภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ศาสนาใดก็มีสิทธิและเสรีภาพ อยากให้คนไทยตั้งจิตให้เป็นกลาง ดูคำพูดที่เขียนในที่ชุมนุม ตนทราบดีและตระหนักถึงสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย แต่สิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่เห็นในโซเชี่ยล มีการใช้คำพูดไม่เหมาะสม ไม่บังควร มองว่าหลายคนเห็นก็คงไม่สบายใจเหมือนกัน

ทั้งนี้ เรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง กองทัพบกเป็นหน่วยงานความมั่นคงก็ต้องทำงาน แต่การกระทำใดที่ไปกระทบกระเทือนถึงสิทธิและเสรีภาพ คนที่ทำแบบนั้นควรคำนึงถึงขอบเขตการใช้สิทธิเสรีภาพด้วย ทั้งในสภาผู้แทนราษฎร หรือการชุมนุมในที่ต่าง ๆ ก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่จาบจ้วง หรือใช้คำพูดไม่สุภาพต่อบุคคลที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่

“แม้ผมจะเป็นผบ.ทบ. แต่พูดครั้งนี้ในฐานะคนไทย ที่เป็นประชาชนคนหนึ่งว่าแต่ละท่านจะทำอย่างไร ขอให้นึกย้อนกลับไปคงจะรู้สึกเสียใจ” ผบ.ทบ. กล่าว

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวอีกว่า ต้องขออนุญาตอ้างถึงสำนักข่าวบีบีซีไทย ตนได้ศึกษาเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2558 คือทฤษฎีสมคบคิด หรือเป็นเรื่องที่น่าศึกษาฝากให้ทุกคนไปดู เพราะเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน และปัจจุบันตนมองแล้วว่ามีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ เป็นกระบวนการ มีหลายคนพยายามอธิบายความหมายในทฤษฎีสมคบคิด ซึ่งในข้อมูลของบีบีซีไทยได้มีการพูดถึงนิสิตนักศึกษาผู้มีความรู้นำมาเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในส่วนของกองทัพเองได้เฝ้ามองติดตาม แต่ไม่คุกคาม รวมถึงนายกรัฐมนตรีก็ไม่เคยมีคำสั่ง เพียงแต่ให้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ชุมนุมให้เกิดความเรียบร้อย และประสานงานกับตำรวจ แม้แต่จะเดินทางมาชุมนุมที่หน้าบก.ทบ.ก็ไม่ได้มีมาตรการอะไร และไม่ได้ติดใจอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทฤษฎีสมคบคิดมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังด้วยหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวตอบว่า ในฐานะผบ.ทบ.จะไปพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การชุมนุมขยายวงกว้าง และมีการใช้คำพูดถึงสถาบัน พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ณะนี้มีหน่วยงานความมั่นคง เข้าไปดู แต่จะให้ตนเตือนสติคงจะลำบาก แต่อยากให้ไปดูว่าตนเองกลายเป็นหนึ่งในทฤษฎีสมคบคิดหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้ประชาชนแสดงความเห็นในเรื่องของการปกป้องสถาบันอย่างไร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้วคนดีจะไม่กล้าแสดงออก และกลัว ซึ่งหลายคนก็เป็นเช่นนี้ แม้กระทั่งการใช้สื่อโซเชียลก็ถูกถล่มกลับมา เรื่องนี้มีหน่วยงานด้านการข่าวได้ติดตามผู้ที่เปิดแอคเคาท์ใช้โซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก หรือทวิตเตอร์ โดยเฉพาะการรีทวิต ซึ่งมีค่อนข้างมากประมาณ 4-5 แอคเคาท์ที่สามารถทำลักษณะเช่นนี้ได้ ถือว่าเป็นการต่อสู้กันในโลกโซเชียล ถนนแห่งความเป็นจริงตนรู้ว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ดี และทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือ หากเราทุกคนสามัคคีกันเราจะผ่านจุดเปราะบางตรงนี้ไปให้ได้ก็จะเป็นเรื่องดี

นอกจากนี้ตนได้มีโอกาสอ่านหนังสือ ”ปฏิบัติการลับในสมรภูมิรบบันทึกประวัติศาสตร์การทหาร” ที่เพิ่งค้นพบโดยบุตรสาวของดร.ทิพภานิดา ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา บุตรสาวของพล.ต.จักรชัย ศุภางคเสน ได้เขียนถึงเรื่องราวในปี 2475 ว่าความรักความสามัคคีเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุดในชาติไทยเพื่อให้ผ่านอุปสรรคไปได้ ขณะที่รัฐบาลและกองทัพบก ก็มีเรื่องที่ท้าทายที่จะต้องดำเนินการในอนาคตเนื่องจากประสพปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ไทยก็เป็นต้นแบบและตัวอย่างของหลายประเทศ อยากให้มีความสามัคคีและผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้

เมื่อถามว่า มีความพยายามปลุกเหตุการณ์ 2475 ขึ้นมาอีกครั้ง พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า “ไม่เป็นไร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายดำเนินการ”

ส่วนกรณีที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักเคลื่อนไหวการเมือง ฉีกรูปผบ.ทบ.นั้น พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวติดตลกว่า “ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้แบทแมนรีเทินไปจัดการ เพราะเพนกวินแพ้แบทแมน”

เมื่อถามว่า วันนี้นายสาธิต เซกัล ประธานหอการค้าไทย-อินเดีย จะเดินทางเข้ามาพบ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่าให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานเลขานุการกองทัพบกเป็นผู้ดำเนินการ เพราะตนติดภารกิจ

เมื่อถามว่า จะมีการซ้ำรอยเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 หรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า คงไม่หรอก

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก วาสนา นาน่วม

 

ข่าวที่น่าสนใจ