บริษัทบางจาก เปิดตัว “Winnonie” หรือ “วิน โน หนี้” สตาร์ทอัพนำนวัตกรรมพลังงานสีเขียวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต “วินมอร์’ไซค์” ลดภาระหนี้
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “Winnonie” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมนวัตกรรมภายในองค์กร “The Intrapreneur – ปั้นคนในให้เป็นเถ้าแก่” สนับสนุนให้พนักงานนำหลัก design thinking มาใช้ในการคิดแนวการทำธุรกิจ จัดขึ้นโดยสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจหรือ BiiC ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่พัฒนา และแสวงหาธุรกิจใหม่ๆ และกิจกรรมงานวิจัยพัฒนา เพื่อใช้นวัตกรรมต่อยอดขยายธุรกิจพลังงานสีเขียวและธุรกิจด้านชีวภาพทั้งในและนอกประเทศ
โดยกลุ่มพนักงานที่เป็นผู้ริเริ่มโครงการนี้ ได้ทำการศึกษาการประกอบอาชีพและการใช้ชีวิตของผู้ประกอบการรถวินมอเตอร์ไซค์ในบริเวณพื้นที่รอบๆ สำนักงานใหญ่และโรงกลั่นน้ำมันบางจาก เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาคิดเป็นโครงการให้ตอบโจทย์ความต้องการของเขาเหล่านั้น พบว่ามีค่าใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งกว่า 60% เป็นค่าใช้จ่ายในการผ่อนรถและเชื้อเพลิง (น้ำมัน) ทำให้คิดว่าถ้าสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับพวกเขา อีกทั้งช่วยดูแลโลกและสิ่งแวดล้อม โดยสามารถเก็บข้อมูลการเดินทางเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป จะเป็นทางออกที่ดี
วัตถุประสงค์หลักของ “Winnonie” คือช่วยลดภาระหนี้สินซึ่งถือเป็น pain point ของวินมอเตอร์ไซค์ ด้วยการนำมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาให้วินมอเตอร์ไซค์เช่า ลดภาระดอกเบี้ยทบต้นจำนวนมากจากการผ่อนรถที่ต้องซื้อมาประกอบอาชีพ รวมทั้งลดภาระค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง
ซึ่งจากการศึกษาพบว่าการใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าการใช้น้ำมันประมาณ 10 เท่า พร้อมการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบ swapping เป็นรายแรกในประเทศไทย โดยสามารถนำแบตเตอรี่ไปเปลี่ยนได้ที่ตู้สำหรับแลกเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก
“Winnonie” เริ่มจากโครงการนำร่อง ทดลองให้ผู้ประกอบอาชีพวินมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่รอบสำนักงานใหญ่และโรงกลั่นน้ำมันบางจากเช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าใช้งานเพื่อศึกษาข้อมูลเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากวินมอเตอร์ไซค์ถือเป็นกลุ่มผู้ใช้งานแบบเคลื่อนที่จากจุดสู่จุด (point to point) ทำให้สามารถจำกัดวงเพื่อเก็บข้อมูลได้ในลักษณะ microgrid และนำข้อมูลมาใช้ในการ scale up เพื่อให้บริการจำนวนมากขึ้นในพื้นที่กว้างขึ้น เป็นคอมมูนิตี้ที่มีพันธมิตรมาร่วมพัฒนา ecosystem (ระบบนิเวศน์)
ซึ่งหลังจากช่วงการศึกษาข้อมูล จะมีผู้ร่วมโครงการในเบื้องต้นได้แก่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และธนาคารเกียรตินาคิน และจะขยายเครือข่ายไปยังผู้ผลิตและจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ ในอนาคต
ทั้งนี้ วินมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 1 คัน ถ้าวิ่งระยะทาง 150 กม.ต่อ 1 วัน จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยวันละ 6.75 กิโลกรัม สำหรับใน กทม.มีมอเตอร์ไซค์จดทะเบียนป้ายเหลืองประมาณ 100,000 คัน
ถ้าสามารถเปลี่ยนมอเตอร์ไซค์วิน 1 แสนคันใน กทม. เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ทั้งหมด จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศได้กว่า 250,000 ตันต่อปี เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ประมาณ 20.5 ล้านต้น หรือคิดเป็นพื้นที่ 30,000 ไร่ คือประมาณ 3 เท่าของพื้นที่บางกะเจ้า
ข่าวที่น่าสนใจ