มั่งคั่งและยั่งยืน! รัฐบาลประกาศขับเคลื่อน “BCG โมเดล เศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ย้ำผู้ประกอบการต้องเริ่มจากฐานรากที่มั่นคง ดึงทฤษฎีใหม่เพิ่มมูลค่า พร้อมใส่ใจสิ่งแวดล้อม
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มดีขึ้น รัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เร่งแผนงานเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ โดยล่าสุด ได้ประกาศใช้แนวคิดใหม่ คือ “โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน BCG” ที่จะเน้นการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ต่อระบบเศรษฐกิจในระยะยาว
โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินการตามรัฐบาลวิถีใหม่ ที่ทุกภาคส่วน ร่วมคิด ร่วมวางแผนอนาคตไทย ทำงานเชิงรุก ก้าวไปข้างหน้าด้วยพลังของคนไทย ร่วมกันสร้างชาติ พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ที่เรียกว่า เศรษฐกิจ BCG
เป็นโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ให้ความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เช่น การเกษตรแนวใหม่หรือทฤษฎีใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าและไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม การประยุกต์วัสดุเหลือใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ การบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด สอดคล้องกับปริมาณฝนและปริมาณแหล่งน้ำในระบบน้ำต่าง ๆ โรงไฟฟ้าและพลังงานต่าง ๆ โดยพืชพลังงาน เป็นต้น
โดยรัฐบาลพร้อมทำความเข้าใจและร่วมมือกับประชาชนขับเคลื่อนการทำงานในลักษณะ New Normal หรือโลกยุคใหม่ โดยสนับสนุนงบประมาณ สนับสนุนให้เกิดผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงหรือนวัตกรรม
ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า โมเดลเศรษฐกิจ BCG จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทำให้ไทยก้าวข้าม “กับดับประเทศรายได้ปานกลาง” และลดความเหลื่อมล้ำ การกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงทรัพยากร ยาและเวชภัณฑ์ ลดปัญหามลพิษและสิ่งแวดล้อม ลดความเสี่ยงจากโรคระบาดในคน สัตว์และพืช ตอบโจทย์ประเทศไทยในยุคหลังสถานการณ์โควิดสร้างรายได้ประเทศในอนาคตให้สูงขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเน้นว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ต้องสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและสอดรับกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และแนวทางการสร้างความเข้มแข็งด้วย “บวร” เพื่อโดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ครอบคลุมกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 6 ด้านเป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ
เพื่อความมั่นคง มั่นคั่ง อย่างยั่งยืน ด้วยบูรณการแผนงานให้สอดคล้องและกัน เป็นพลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ภายในระยะเวลา 5 ปี 10 ปี ตามที่กําหนดในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ส่วนการดำเนินงานรายปีก็จะการกำหนดเป้าหมาย โครงการ/แผนงาน การใช้จ่ายเงินงบประมาณประจำปีอย่างรอบครอบและโปร่งใสด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า การทำงานวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้น ในการขับเคลื่อนประเทศด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจ ยุคหลังจากโควิด-19 โดยมุ่งมั่นเปลี่ยนวิกฤตโควิด-19 ให้เป็นโอกาสของประเทศ เน้นสร้างความเข้มแข็งจากภายในประเทศ ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากไทยเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก ให้ประเทศไทยและคนไทยมีความมั่นคงทั้งด้านอาหาร สุขภาพ พลังงาน ประชาชนมีงานทำ เพื่อนำไปสู่การสร้างงานและโอกาสใหม่ของประเทศ พลิกฟื้นเศรษฐกิจ ผนึกกำลังทุกภาคส่วน ตามแนวทางการทำงาน “รวมไทยสร้างชาติ”
ข่าวที่น่าสนใจ
ธปท.เผยตัวเลขเศรษฐกิจไทย “มิถุนายน” ติดลบ ร้อยละ 8.1
ธอส.ออกมาตรการเพิ่มระยะพักชำระหนี้ของลูกค้า 8 เงื่อนไขต่อไปถึง ต.ค.นี้
