กระทรวงอุตสาหกรรม ผนึก เอสซีจี แก้ปัญหาน้ำเสียด้วยนวัตกรรมชุดบำบัดน้ำเสียชุมชนและทุ่นกักขยะ ฟื้นฟู “คลองเปรมประชากร” สะอาด สดใสอย่างยั่งยืน
คลองเปรมประชากร ถือว่าเป็นสายน้ำสำคัญสายหนึ่งของกรุงเทพมหานครมาตั้งแต่กาลอดีต ถูกขุดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 มีความยาวกว่า 50 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นเชื่อมต่อกับคลองผดุงกรุงเกษม ในเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร โดยไหลผ่านเขตดุสิต เขตบางซื่อ เขตจตุจักร เขตหลักสี่ เขตดอนเมือง ผ่านจังปทุมธานี อำเภอเมืองฯ อำเภอสามโคก และไหลสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ในอดีตคลองเปรมประชากร เป็นแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค คือเส้นทางคมนามคมเพื่อขนส่งสินค้า รวมทั้งใช้ประโยชน์ด้านเกษตรกรรมในพระราชอาณาจักรและพื้นที่รอบนอก ซึ่งปัจจุบันคลองเปรมประชากรไม่ได้เป็นแหล่งน้ำสายหลักในการใช้ประโยชน์ของประชาชนอีกต่อไป และเมื่อผู้คนหนาแน่นมากขึ้น รวมทั้งระบบอุตสหกรรมที่ขยายตัวอย่างกว้างขวาง พื้นที่โดยรอบคลองมีโรงงานอุตหกรรมและบ้านเรือนจำนวนมาก ทำให้คลองสายนี้ต้องพบกับปัญหาน้ำเสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับมอบหมายจากศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน (ศอญ.จอส.) ให้ร่วมบูรณาการพัฒนาคุณภาพน้ำในคลองเปรมประชากร เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10)
ซึ่งก่อนหน้านี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ใช้ความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนานวัตกรรม เพื่อช่วยเหลือประชาชนและมีผลงานที่ประสบสำเร็จมาแล้ว เช่น เครื่องพ่นหมอกไอน้ำ เครื่องขจัดมลพิษทางอากาศ Pm 2.5 และเครื่องผลิตน้ำสะอาดเคลื่อนที่ ฯลฯ และครั้งนี้ ได้เข้ามาดำเนินการในส่วนของการบำบัดน้ำเสีย
ทางปลัดกระทรวงกระทรวงอุตสาหกรรม นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ระบุว่า จากการตรวจวัดคุณภาพน้ำในคลองเปรมประชากรตลอดสายในกรุงเทพฯ พบว่า เขตดอนเมืองและหลักสี่ เป็นพื้นที่ที่มีชุมชนอาศัยอย่างหนาแน่น และมีน้ำเน่าเสียมากที่สุด จึงเหมาะสมต่อการดำเนินโครงการฟื้นฟู
จึงได้ประสานความร่วมมือกับเอสซีจี ซึ่งเป็นภาคเอกชนที่มีศักยภาพ ร่วมดำเนินการออกแบบและจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียก่อนระบายน้ำลงคลองเปรมประชากร โดยทำการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียที่ใช้ในครัวเรือน นำร่องที่อาคาร 8 แฟลตตำรวจ ทุ่งสองห้อง จำนวน 2 ยูนิต ซึ่งมีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียชุมชน
รวมถึงเอสซีจี ได้สนับสนุนถังดักไขมัน จำนวน 185 ถัง ให้กับชุมชนที่พักอาศัยในแฟลตตำรวจ ตลอดจนบ้านเรือน และร้านอาหาร ที่อยู่ในพื้นที่เขตหลักสี่ และเขตดอนเมือง เพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำเสียตั้งแต่ต้นทาง รวมถึงติดตั้งนวัตกรรมทุ่นกักขยะลอยน้ำ จำนวน 4 ชุด มอบให้เขตหลักสี่ และเขตดอนเมือง เพื่อช่วยลดปริมาณขยะตกค้างที่นอกจากจะทำให้การสัญจรทางน้ำสะดวกขึ้นแล้ว ยังช่วยป้องกันปัญหาระบบระบายน้ำขนาดใหญ่ขัดข้อง นับเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งทุ่นกักขยะในคลอง โดยสามารถเคลื่อนย้ายไปติดตั้งบริเวณอื่นได้
ขณะที่นายยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารกลาง เอสซีจี ระบุว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมในโครงการ “จิตอาสาสำรวจ ออกแบบจัดหาและติดตั้งชุดกรองน้ำเสียในคลองเปรมประชากร เฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10” เพื่อพัฒนาคุณภาพน้ำในลำน้ำสาธารณะ และลุ่มน้ำสายหลักของประเทศ การสนับสนุนครั้งนี้เป็นการแก้ปัญหาเสีย และเป็นโครงการต้นแบบในการทดลองแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียในเขตชุมชนเมืองในบริเวณที่มีอาคารบ้านเรือนพักอาศัยติดกับลำน้ำสาธารณะ
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินกิจกรรมจิตอาสาเพื่อพัฒนาคุณภาพน้ำในลำน้ำและลุ่มน้ำสายหลักของประเทศ ดำเนินการแล้วเสร็จ 2 โครงการ ได้แก่ คลองเปรมประชากร ที่มีโรงงานบริเวณโดยรอบคลองดังกล่าว จำนวน 104 โรง และ 1 นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งมีระบบบำบัดน้ำเสียอยู่ และมีโรงงานที่ระบายน้ำทิ้งลงคลองฯ เพียง 23 โรงเท่านั้น
และโครงการในส่วนของ “คลองอู่ตะเภา/ทะเลสาบสงขลา” ซึ่งได้ให้โรงงานทุกแห่งลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) บำบัดน้ำก่อนปล่อยน้ำ การรณรงค์เข้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) และการใช้น้ำตามหลัก 3 R (Reduce Reuse Recycle) รวมทั้งการอบรมเครือข่ายเพื่อร่วมเฝ้าระวังคอยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแล
นอกจากนี้ สำหรับในระยะต่อไปปี 2563-2564 กระทรวงอุตสาหกรรม มีแผนดำเนินโครงการ ณ แม่น้ำท่าจีน ซึ่งมีโรงงานหลายแห่งตั้งอยู่ และคลองแสนแสบ ที่อยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างคุณภาพที่ดีของแหล่งน้ำอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
เรื่องที่น่าสนใจ