สทบ.จับมือ สสว. ลงพื้นที่ เมืองดอกบัว สร้างตลาดออนไลน์ LINE “ตลาด กทบ. สสว” เพิ่มช่องการตลาด สร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 7 หมื่นล้านบาท
นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ลงพื้นที่ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เพื่อมอบแนวทางการดำเนินงานโครงการความร่วมมือเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านโดยการแลกเปลี่ยนสินค้าสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไห อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี และร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามการจับคู่พันธมิตรด้านการข้าวหอมมะลิ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ


นายรักษ์พงษ์ กล่าวว่าจากการที่สทบ.ได้จัดทำแอปพลิเคชั่น LINE “ตลาด กทบ.” เพื่อรวบรวมสินค้าและบริการของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ โดยให้สมาชิกแต่ละกองทุนติดต่อระหว่างกันเองเพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างกันผ่านโทรศัพท์มือถือ
ขณะเดียวกัน สทบ.ได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว) จัดทำแอปพลิเคชั่น LINE “ตลาด กทบ. สสว.” โดยทาง สสว.ได้เข้ามาช่วยเหลือ ยกระดับให้มีเครื่องมือช่วยให้สมาชิก กทบ. สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากองทุนหมู่บ้าน โดยใช้ SME Connect มาเป็นตัวระบบ line @ มี bot แยกหมวดสินค้าเพื่อสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและประชาชนที่เข้ามาเลือกซื้อสินค้าใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ด้านนายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า การร่วมมือกับ สทบ. จัดตั้งตลาดออนไลน์ ผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ ชื่อว่า “ตลาด กทบ สสว.” (@villagefundmarket) เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงเครือข่ายของ สสว. กับ สทบ. นำร่องพื้นที่แรกในจังหวัดอุบลราชธานี และจะขยายไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศผ่านการดำเนินงานของศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจร (ศูนย์ OSS) ของ สสว.



ภายใต้แนวคิด “สั่งตรงจากผู้ขาย ส่งตรงจากทุกหมู่บ้าน ทั่วประเทศ” จากเครือข่ายสมาชิกกองทุนฯ 79,595 หมู่บ้าน เตรียมคัดเลือกกลุ่มสินค้าโดดเด่น 10 รายการจากแต่ละจังหวัด ไม่น้อยกว่า 770 รายการจาก 77 จังหวัด เข้าสู่ “ตลาด กทบ สสว.” ภายในเดือนกรกฎาคม 2563 หากตลาดขับเคลื่อนและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค มีรายได้หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท จะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 7 หมื่นล้านบาท
สำหรับสิทธิประโยชน์ที่กองทุนหมู่บ้านจะได้รับจากการเป็นสมาชิกของ สสว. คือ 1. ช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ 2. เพิ่มศักยภาพทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ มุ่นเน้นการส่งเสริมตลาดออนไลน์เป็นสำคัญ


โดยจะประกอบไปด้วย 8 หมวดสินค้า ได้แก่ 1.ข้าว 2.น้ำดื่ม 3.ผ้าและเสื้อผ้า 4.ผลไม้และอาหารแปรรูป 5.ขนมขบเคี้ยว 6.ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ 7.เครื่องใช้และของตกแต่ง และ 8.ผลิตภัณฑ์บำรุงดิน ความร่วมมือนี้ ศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจร (SME One-stop Service Center: OSS) ของสสว. ซึ่งมีสาขาทุกจังหวัดทั่วประเทศ จะเป็นหน่วยงานหลักเชื่อมโยงและเป็นพี่เลี้ยงให้ผู้ประกอบการซึ่งเป็นสมาชิกกองทุน ยกระดับเศรษฐกิจของชุมชนไปอีกขั้น และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเศรษฐกิจฐานรากของไทยให้มีความเข็มแข็งและยั่งยืน



นอกจากนี้ นายรักษ์พงษ์ ได้เดินทางไปจ.ศรีสะเกษ เพื่อเปิดโรงสีข้าวกองทุนหมู่บ้าน และร่วมเป็น สักขีพยานการลงนามการจับคู่พันธมิตรด้านการข้าวหอมมะลิ ระหว่าง กองทุนหมู่บ้านดวนใหญ่ หมู่ที่ 2 ต.ดวนใหญ่ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ กองทุนหมู่บ้านวังไทร หมู่ที่ 11 ต.เขาโร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช กองทุนหมู่บ้านท้ายสำเภา หมู่ที่ 2 ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช โรงมันสำปะหลังโนนคูณ โรงพยาบาลวังหิน โรงเรียนบ้านดวนใหญ่
โดยความร่วมมือของพันธมิตรนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายข้าวหอมมะลิของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านให้มีเพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค และยังเป็นการแก้ไขปัญหาราคาข้าวหอมมะลิให้มีราคาที่เหมาะสม ตลอดจนการสร้างองค์ความรู้ การพัฒนาศักยภาพด้านเทคโนโลยีในการผลิต การแปรรูปข้าวหอมมะลิให้สามารถพัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อสร้างเครือข่ายด้านการตลาดข้าวหอมมะลิ ให้กว้างขวางและเพิ่มมากขึ้น

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
