ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ แรงกระตุ้นภาครัฐสร้างรายได้ท่องเที่ยว 41,000 ล้านบาท

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ แรงกระตุ้นภาครัฐสร้างรายได้ท่องเที่ยว 41,000 ล้านบาท


ฟื้นตัว!! ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศหลังคลายล็อกสร้างรายได้เพิ่มราว 41,000 ล้าน ชี้ แต่จะเป็นการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป

 

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ดีขึ้น รัฐบาลได้วางมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค.2563 เพื่อเป็นการฟื้นคืนเศรษฐกิจ ล่าสุดจากประเด็นดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้เผยผลสำรวจ พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 47.7% มองว่ามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว และกลุ่มตัวอย่างกว่า 60.1% วางแผนจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศในช่วง 1-3 เดือน (หลังการคลายล็อก)

จากผลสำรวจดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ประเมินว่า ตลาดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทยจะได้รับผลด้านบวกให้มีเม็ดเงินรายได้เพิ่มขึ้นราว 41,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่มีมาตรการฯ

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศของภาครัฐ จะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากมาตรการฯ ดังกล่าวมีการออกแบบที่จะช่วยเหลือให้ครอบคลุมผู้ประกอบการในห่วงโซ่ของภาคการท่องเที่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อม อาทิ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจขนส่ง และธุรกิจท้องถิ่นอย่างร้านขายของที่ระลึก หรือร้านอาหาร เป็นต้น

อีกทั้งยังน่าจะมีผลทางจิตวิทยากระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวและก่อให้เกิดการใช้จ่ายในสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ส่งผลทางบวกเพิ่มเติมต่อทิศทางตลาดไทยเที่ยวไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ จากเดิมที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ตลาดการท่องเที่ยวของคนไทยเที่ยวในประเทศในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรกอยู่แล้ว หากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศคลี่คลาย

เหตุผลที่สนับสนุนมุมมองข้างต้น ส่วนหนึ่งสะท้อนจากผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่พบว่า ผู้ตอบแบบถามราว 47.7% มองว่า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน กลุ่มตัวอย่าง 60.1% มีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศในช่วง 1-3 เดือน (หลังการคลายล็อก) ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ผลของมาตรการภาครัฐ น่าจะทำให้คนไทยตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และสร้างเม็ดเงินรายได้ส่วนเพิ่มในตลาดไทยเที่ยวไทยอีกราว 41,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่มีมาตรการฯ

อย่างไรก็ตาม ด้วยกำลังซื้อที่เปราะบางตามภาวะเศรษฐกิจ และความท้าทายของธุรกิจภายใต้สภาวะ New Normal ทำให้คาดว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ตลาดจะยังไม่สามารถพลิกกลับมาเป็นบวก เมื่อประกอบกับในช่วงครึ่งปีแรกตลาดถูกกระทบอย่างหนัก ภายใต้สมมติฐานที่ไม่มีการระบาดรอบใหม่ที่รุนแรงในไทย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงคาดว่า ทั้งปี 2563 คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศน่าจะอยู่ที่ 89.5-91.5 ล้านคน-ครั้ง หรือหดตัว 46.4% ถึงหดตัว 45.2% จากปีที่ผ่านมา ขณะที่รายได้จากคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศน่าจะมีมูลค่า 5.45-5.67 แสนล้านบาท หรือหดตัว 49.5% ถึงหดตัว 47.5% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ที่ดีกว่าที่เคยประเมินไว้

โดยสรุป จากผลสำรวจสะท้อนว่า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย คนไทยเริ่มวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศในช่วงที่เหลือของปีนี้ กอปรกับรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศในช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค. 2563 ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาดการท่องเที่ยวในประเทศในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และหากไทยสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ไม่ให้กลับมาระบาดในประเทศเป็นรอบที่ 2 บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศน่าจะค่อยๆ กลับมาฟื้นตัว

อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อทิศทางของตลาดไทยเที่ยวไทย โดยเฉพาะประเด็นด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคบางกลุ่มที่ยังอ่อนแอ ขณะที่ความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ตลาดไทยเที่ยวไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะยังไม่สามารถพลิกกลับมาเป็นบวก

ซึ่งหากมองไปข้างหน้า ธุรกิจยังต้องเผชิญกับปัจจัยท้าทายหลายประการ โดยการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวไทยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในกรอบที่จำกัด ส่งผลทำให้เกิดการแข่งขันในธุรกิจที่รุนแรง โดยเฉพาะแรงกดดันต่อการกำหนดทิศทางของราคา ขณะเดียวกันการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการภายใต้สภาวะ New Normal ยังเต็มไปด้วยข้อจำกัดซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้และต้นทุนของผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยว

ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวก็จำเป็นต้องปรับรูปแบบการทำตลาด โดยใช้จังหวะที่ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว อาทิ จัดแพคเกจท่องเที่ยวพิเศษสำหรับผู้ที่ไม่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์จากมาตรการฯ และการจูงใจให้นักท่องเที่ยวกลับมาใช้บริการอีกครั้ง

โดยมีการนำเสนอแพคเกจราคาพิเศษให้กับผู้ที่มาใช้บริการในครั้งต่อไป เป็นต้น นอกจากนี้ คงต้องติดตามรายละเอียดแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภายใต้วงเงิน 4 แสนล้านบาทที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมและหนุนการท่องเที่ยวให้มีแรงขับเคลื่อนต่อไป

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

เปิดรายละเอียด “เที่ยวปันสุข” ครม.ผ่านฉลุย แต่คนไทยกลุ่มไหน “ได้สิทธิ์เที่ยว”

ผ่าผลประเมิน SMEs รายภูมิภาค “เหนือ-อีสาน-กลาง” ฟื้นตัวปีนี้ ส่วน ”ใต้” รอปีหน้า