ผู้ว่าแบงก์ชาติแจง “สภาเข้าใจผิด” ยัน 9 แสนล้านไม่ได้กู้

ผู้ว่าแบงก์ชาติแจง “สภาเข้าใจผิด” ยัน 9 แสนล้านไม่ได้กู้


แบงก์ชาติทำความเข้าใจส.ส. หลังเห็นอภิปรายกู้เงิน 9 แสนล้าน ยันวงเงินนี้ไม่ได้กู้ และไม่ได้เป็นภาระลูกหลานด้วย

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารเห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือผู้ว่าการฯ แบงก์ชาติ เขียนข้อความถึงประเด็นการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 และให้บรรดาของส.ส.ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการกู้เงินครั้งนี้ หลังจากพบว่ามีส.ส.บางคนเข้าใจผิดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายพ.ร.ก.กู้เงิน ของรัฐบาล โดยนายวิรไท ระบุว่า

“ได้ยินหลายท่านอภิปรายในสภาว่า รัฐบาลเสนอ พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ รวม 1.9 ล้านล้านบาท ขอเรียนยืนยันอีกครั้งว่า พ.ร.ก. ที่ ธปท. เสนอ “ไม่” ควรเรียกว่าเป็น พ.ร.ก. กู้เงิน เพราะหัวใจของ พ.ร.ก. ทั้งสองฉบับคือการให้อำนาจ ธปท. เข้าไปบริหารจัดการสภาพคล่องได้ตรงจุด

เมื่อครบเวลาสองปี เงินที่ ธปท. ปล่อย soft loans ผ่านสถาบันการเงินไปให้ SMEs สถาบันการเงินก็ต้องเอากลับมาคืน ธปท. ส่วนเงินที่ ธปท. จะลงทุน ผ่านกองทุน BSF เป็นการให้ bridge financing ชั่วคราว เมื่อครบกำหนดก็เอาเงินกลับมาคืน ธปท. (ธปท. ถึงต้องเน้นเรื่องคุณภาพของตราสารที่กองทุน BSF เข้าไปลงทุน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย)

ทั้งกลไกของ soft loans และกองทุน BSF ไม่ใช่การกู้เงิน 900,000 ล้านบาทมาใช้จ่าย หรืออีกนัยหนึ่ง ไม่ได้สร้างภาระการคลัง 900,000 ล้านบาท หรือไม่ได้สร้างภาระภาษี 900,000 ล้านบาทให้ลูกหลานเหมือนกับที่หลายท่านกังวล

ทั้งสองกลไกอาจจะสร้างภาระการคลังในอนาคตได้บ้าง ถ้าสินเชื่อ soft loans ที่ปล่อยให้ SMEs จำนวนมากเกิดกลายเป็นหนี้เสีย หรือตราสารหนี้ที่กองทุน BSF เข้าไปลงทุนไม่ได้รับชำระหนี้คืน ซึ่งตาม พรก. แล้วรัฐบาลจะชดเชยความเสียหายให้เพียงบางส่วนเท่านั้น

ธปท. ตระหนักดีว่าทั้งสองกลไกที่ ธปท. เสนอไม่พึงสร้างภาระการคลังให้กับคนไทยในอนาคต จึงต้องมีเงื่อนไขด้านคุณภาพอย่างรัดกุมทั้งการปล่อยสินเชื่อผ่าน soft loans และการลงทุนผ่านกองทุน BSF”

 

ข่าวที่น่าสนใจ

EXIM BANK แถลงผลการดำเนินงานพักชำระหนี้ พร้อมขยายสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ช่วยเหลือลูกค้าและผู้ส่งออก โดยเฉพาะ SMEs ในภาวะโควิด-19

“อุตตม” ยัน พ.ร.ก. “เราไม่ทิ้งกัน” โปร่งใส มั่นใจไม่กระทบเสถียรภาพการเงินประเทศ