รมว.คลัง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร จ.นครปฐม ชี้ธ.ก.ส.จ่ายเงินเยียวยาแล้วกว่า 3.2 ล้านราย แจงยังพบปัญหาเกษตรกรบางรายไม่แจ้งบัญชีเงินฝาก ย้ำรัฐบาลเดินหน้าเยียวยาเต็มที่
วันที่ 22 พฤษภาคม 2563 – นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร จากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมให้กำลังใจพี่น้องเกษตรกร โดยมีนายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. ผู้บริหารและพนักงานให้การต้อนรับ ณ ธ.ก.ส. สาขานครชัยศรี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม


นายอุตตม เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รายละ 15,000 บาท โดยจ่ายเดือนละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พ.ค. – ก.ค. 63) จำนวน 10 ล้านราย วงเงินงบประมาณจำนวน 150,000 ล้านบาท โดยเริ่มทยอยโอนเงินผ่าน ธ.ก.ส. ทุกสาขากว่า 1,200 สาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา วันละประมาณ 1 ล้านราย
ทั้งนี้ จากข้อมูล ณ วันที่ 22 พ.ค.63 ได้ดำเนินการจ่ายเงินแก่เกษตรกรในกลุ่มแรก ไปแล้วจำนวน 3,222,952 ราย เป็นจำนวนเงิน 16,115 ล้านบาท โดยในส่วนของจังหวัดนครปฐม มีเกษตรกรที่ได้รับเงินเยียวยาแล้ว จำนวน 13,881 ราย เป็นจำนวนเงิน 69.4 ล้านบาท


ขณะที่ยังมีเกษตรกรที่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยา แต่ยังไม่สามารถโอนเงินได้อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ร้อยละ 97 ไม่พบบัญชีเงินฝาก โดยขอให้เกษตรกรผู้ได้รับสิทธิ์ ตรวจสอบสิทธิ์และแจ้งเลขบัญชีรับโอนในเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 20 พ.ค.63 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ได้ส่งข้อมูลเกษตรกรกลุ่มที่ 1 รอบ 2 ให้ ธ.ก.ส. อีกจำนวน 3,519,434 ราย ซึ่งได้มีการวางแผนจ่ายเงินตั้งแต่วันที่ 22-29 พฤษภาคม 2563 ต่อไป สำหรับเกษตรกรกลุ่มที่ 2 ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรและการขึ้นทะเบียนใหม่เพิ่มเติม เมื่อได้รับรายชื่อจาก กษ. และผ่านการตรวจสอบความซ้ำซ้อนแล้ว ธ.ก.ส. จะเร่งดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยเร็วต่อไป
“รัฐบาลได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนกลุ่มต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างเต็มที่ และหลังจากนี้ยังมีมาตรการเสริมอื่น ๆ ที่จะเข้าไปสนับสนุนการสร้างงาน สร้างรายได้ที่มั่นคง เพื่อนำไปสู่ การสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศต่อไป” นายอุตตมกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
