กระทรวงคลัง ยืนยัน มาตรการชุดที่ 3 เน้นดูแลกลุ่มเกษตรกร พร้อมดูแลแรงงาน ลูกจ้าง อาชีพอิสระ ต่อเนื่อง เตรียมผุดโครงการเสริมอาชีพเศรษฐกิจฐานราก พร้อมเร่งหารือสำนักงบประมาณ ในส่วนงบประมาณที่ตัดได้ก่อนออก พ.ร.ก.กู้เงิน
วันที่ 3 เม.ย.63 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษในวันนี้ (3 เม.ย.63) โดยกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันพิจารณาเพื่อนำเสนอมาตรการดูแลและเยียวยามาตรการทางเศรษฐกิจชุดที่ 3 ทั้งนี้เพื่อให้ครอบคลุมการดูแลเศรษฐกิจในทุกมิติ ตลอดระยะเวลา 6 เดือนนับจากนี้ เพื่อให้มีมาตรการที่สามารถดูแลประชาชน ธุรกิจ และดูแลระบบเศรษฐกิจโดยส่วนรวม โดยนำเสนออกมาเป็นกลุ่มกิจกรรม

1.มาตรการเยียวยาภาคประชาชน และภาคธุรกิจ ในส่วนที่ยังขาดเพื่อให้ครอบคุลมครบถ้วน โดยจะเริ่มดูแลกลุ่มเกษตรกร ที่ยังไม่ได้รับการดูแล การให้ความดูแลต่อเนื่องในกลุ่มผู้ประกอบการ แรงงาน อาชีพอิสระ ลูกจ้างชั่วคราว ทั้งในส่วนของการลดภาระผ่อนผันสินเชื่อ ในส่วนของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ เพราะมีประชาชนเป็นจำนวนมากใช้บริการขอสินเชื่อจากบริษัทเหล่านั้นเช่นเดียวกัน โดยหวังผลให้ประโยชน์เกิดขึ้นกับประชาชน และผู้ประกอบการ
2.มาตรการดูแลกิจกรรมเศรษฐกิจ เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจไทยหยุดชะงักใน 3-4 เดือนข้างหน้า เป็นการดูแลโคงสร้างเศรษฐกิจและสังคม รวมไปถึงบประมาณที่จะใช้ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และส่วนที่เกี่ยวข้อง การดูแลเศรษฐกิจฐานราก Local Economy ต่อเนื่องจากการที่แรงงาน ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กลับไปยังภูมิลำเนาของตัวเอง ซึ่งอาจจะทำให้สภาพเศรษฐกิจ การทำธุรกิจเปลี่ยนไป อาจมีแรงงาน และประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่
ดังนั้นจึงได้มีการกำหนดมาตรการที่จะดูแลกลุ่มคนเหล่านี้ในทันที และมาตรการเสริมสร้างอาชีพ โอกาส ทักษะใหม่ ให้กับประชาชนในพื้นที่ชุมชน เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับพื้นที่ และเศรษฐกิจภายในของประเทศไปพร้อมกัน นอกจากนั้น ยังมีแนวความคิดเรื่องการลงทุนของภาครัฐเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ทั่วประเทศ
3.มาตรการดูแลภาคการเงินของผู้ประกอบการ ซึ่งมีภาระที่เกิดจากการกู้ยืม เพื่อให้มีสภาพคล่องเพียงพอ จะมีการออกมาตรการเพิ่มเติม จากระยะ 1 และระยะ 2 ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้นำเสนอ
“สำหรับวงเงินที่จะใช้ในการบริหารจัดการมาตรการเยียวยาในชุดนี้นั้น คาดว่าจะมีวงเงินประมาณ ร้อยละ 9-10 ของจีดีพี โดยไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีการกู้ทั้งหมด แต่จะมีการหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ โดยจะมีทั้งการดำเนินการทางงบประมาณ จากงบประมาณปี 63 ในส่วนที่สามารถตัดได้ในร้อยละ 10 ของแต่ละกระทรวง และหากต้องใช้เพิ่มเติมก็จะมีการพูดถึง พ.ร.ก.กู้เงิน” นายอุตตม กล่าวในตอนท้าย

ข่าวที่น่าสนใจ
ครม.ประชุมวาระพิเศษเห็นชอบมาตรการชุดใหญ่ดูแลศก.เซ่นพิษโควิด
ส่อง 50 มหาเศรษฐีไทย เจอพิษโควิด-19 ทำ 38 คน รวยลดลงฮวบในปีนี้
