สรุปประเด็นสำคัญไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 27 มี.ค.63 ตายอีก 1 คน ชายไทยวัย 50 ปี จากนราธิวาส ติดเชื้อเพิ่ม 91 ราย สธ.ย้ำ ไม่แนะนำให้ไปซื้อชุดตรวจเอง หรือไปตรวจโดยไม่มีความเข้าใจ
1.ผู้ติดเชื้อพบรายใหม่เพิ่ม 91 ราย กลับบ้านได้ 9 ราย รวมผู้ป่วยรักษาหาย 97 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,136 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 1,034 ราย เสียชีวิต 1 ราย (รวม 5 ราย) สำหรับผู้ป่วยอาการหนักมี 11 ราย ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
2.สถานการณ์ทั่วโลกใน 196 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 1 เรือสำราญ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 27 มีนาคม 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 519,899 ราย เสียชีวิต 23,588 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 81,285 ราย เสียชีวิต 3,287 ราย อิตาลีพบผู้ป่วย 80,589 ราย เสียชีวิต 8,215 ราย
3.สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า วันนี้มีผู้ป่วยเพิ่ม 91 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้
กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 30 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย 5 ราย ,กลุ่มสถานบันเทิง 7 ราย และกลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 18 ราย
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 19 ราย ได้แก่ กลุ่มที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงทั้งคนไทยและคนต่างชาติ 10 ราย, กลุ่มผู้ทำงานหรืออาศัยในสถานที่แออัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 5 ราย และกลุ่มอื่นๆ ตามเกณฑ์เฝ้าระวัง เช่น ปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ 4 ราย
กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อแต่อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 42 ราย
4.รายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 50 ปี จากโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
5.สำหรับกลุ่มผู้เดินทางจากอิตาลี วันนี้เป็นวันที่ 12 ของการเฝ้าระวังที่อาคารรับรองฐานทัพเรือสัตหีบ จำนวน 83 คน ทุกคนอาการปกติไม่มีไข้ โดยในวันนี้จะเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ครั้งที่ 3
6.จากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วย (วันที่ 26 มีนาคม 2563) พบผู้ป่วยใน 52 จังหวัด เป็นคนไทยร้อยละ 88 ต่างชาติร้อยละ 12
7.กระทรวงสาธารณสุขได้คาดการณ์จำนวนผู้ป่วยถึงวันที่ 15 เมษายน 2563 จากข้อมูลที่มีประชาชนเดินทางออกจากกรุงเทพฯ คาดว่าจะไปป่วยที่ต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นช่วงวันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป หากไม่มีมาตรการป้องกันจะมีผู้ป่วยสะสม 25,225 ราย หากทำมาตรการ Social Distancing ได้ร้อยละ 50 จะมีผู้ป่วยสะสม 17,635 ราย และหากทำได้ร้อยละ 80 จะมีผู้ป่วยสะสม 7,745 ราย
8.ขณะนี้รัฐบาลได้ยกระดับความเข้มข้นทุกมาตรการตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ปิดพื้นที่และควบคุมการจัดการภายในพื้นที่เสี่ยงสูง อาทิ กรุงเทพฯ ปริมณฑล แหล่งท่องเที่ยว หัวเมืองใหญ่ในภูมิภาค และจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งมีมาตรการเข้าออกเคหสถาน หรือสถานที่พำนักของตนเอง
ทั้งนี้ กลุ่มเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง ได้แก่ ผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคเบาหวาน/ ความดันโลหิตสูงที่ควบคุมได้ไม่ดี โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง หอบหืด ภาวะที่ทำให้ภูมิคุ้มกันรางกายต่ำ เช่น กำลังรับยากดภูมิคุ้มกัน ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายคือ กลุ่มเด็กเล็กอายุไม่เกิน 5 ปี
9.กระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำด้วยว่า ในเรื่องของการตรวจเชื้อต้องใช้เวลา อย่างน้อย 5 วันถึงจะมีโอกาสพบเชื้อ ดังนั้นการที่มีโฆษณาขายตามอินเทอร์เน็ตที่ขณะนี้เริ่มมีอาจตรวจแล้วไม่พบ การตรวจต้องมีความเข้าใจ ชุดตรวจเร็วอาจไม่ได้ผลที่ถูกต้องแน่นอน ไม่แนะนำให้ไปซื้อชุดตรวจเอง หรือไปตรวจโดยไม่มีความเข้าใจ
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ
กรมควบคุมโรคแจ้งสถานที่ชมชุน 15 จว. เคยไปต้องเฝ้าระวังอาการ
“อุตตม” เข้ม สั่งเอาผิดกลุ่มมิจฉาชีพหาประโยชน์ลงทะเบียนเงินเยียวยา 5,000 บาท
รวมบริษัทธุรกิจยักษ์เมืองไทย ร่วมบริจาคช่วยต้านโควิด-19
