ฟิลิปปินส์ประกาศตอบโต้ทางการค้า มูลค่า 17,800 ล้านบาท กรณีพิพาทภาษีนำเข้าบุหรี่ จากการที่ประเทศไทยเพิกเฉยต่อคำสั่งของ WTO
เว็บไซต์องค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) เผยแพร่เอกสารซึ่งผู้แทนการค้าของฟิลิปปินส์ดำเนินการร้องขอต่อองค์กรระงับข้อพิพาท (Dispute Settlement Body: DSB) เพื่อขอตอบโต้ทางการค้ากับประเทศไทย มูลค่าปีละ 17,800 ล้านบาท (594 ล้านเหรียญสหรัฐ) ต่อปี จากการที่ประเทศไทยเพิกเฉยต่อคำสั่งของ WTO กรณีข้อพิพาทคดีนำเข้าบุหรี่จากประเทศฟิลิปปินส์
เนื้อหาในเอกสารระบุว่า “ตามข้อ 22.2 ของบันทึกความเข้าใจในระเบียบและข้อปฏิบัติของการระงับข้อพิพาท (Understanding on Rules and Procedures Governing the Settlement of Dispute: DSU) และระยะเวลาตามสมควร (Reasonable Period of Time: RPT) ที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2555 ฟิลิปปินส์จึงร้องขอต่อองค์กรระงับข้อพิพาทเพื่อระงับสิทธิประโยชน์ข้อผูกพันที่เกี่ยวข้อง
โดยจะครอบคลุมการค้ามูลค่าประมาณ 594 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี (หรือประมาณ 17,800 ล้านบาท) ซึ่งเป็นมูลค่าที่เท่ากับสิทธิประโยชน์ที่ประเทศฟิลิปปินส์สูญเสียไปจากการที่ประเทศไทยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำและคำตัดสินของ DSB ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์จะจัดพิจารณาเพื่อกำหนดสินค้านำเข้าของไทยที่จะมีผลบังคับใช้ภายใต้มาตรการระงับสิทธิ์ดังกล่าว และได้จะได้ส่งรายการสินค้าและอัตราภาษีที่จะจัดเก็บเพิ่มขึ้นให้ DSB ทราบในภายหลัง
ในเอกสารยังระบุด้วยว่า เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2551 องค์กรอุทธรณ์ได้จัดตั้งคณะผู้พิจารณาคณะแรกเพื่อตรวจสอบการประเมินทางศุลกากรและมาตรการทางภาษีของประเทศไทย และพบว่ามาตรการของประเทศไทยละเมิดข้อตกลงการประเมินราคาศุลกากร (“CVA”) และข้อตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า ค.ศ. 1994 (“GATT 1994”)
พร้อมแนะนำให้ประเทศไทยจัดทำมาตรการให้สอดคล้องตามข้อผูกพันที่มีต่อ WTO และขอให้มีการถอนฟ้องคดีอาญาซึ่งมีฐานมาจากมาตรการที่ขัดต่อคำสั่ง WTO อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำและตัดสินของ DSB ภายในระยะเวลาที่เหมาะสมที่ตกลงร่วมกันไว้
อีกทั้ง ยังเดินหน้าฟ้องร้องคดีอาญาต่อฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด (“PMTL”) ในข้อกล่าวหาว่ามีการสำแดงมูลค่าทางศุลกากรต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งล่าสุด ศาลได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 ให้ PMTL ชำระโทษปรับประมาณ 1,200 ล้านบาท (40.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งได้มีการชำระค่าปรับไปแล้วในวันที่ 27 ธันวาคม 2562
ที่มา:https://www.wto.org/english/tratop_e/dispu_e/cases_e/ds371_e.htm
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
