รัฐบาล ประชุมพร้อมรับมือขั้นสูงสุด หากโควิด-19 หยุดไม่อยู่แพร่ระบาดจากระยะ 2 ไประยะ3 ทั้งเตรียมสถานที่รับผู้ป่วยเฝ้าระวัง โรงพยาบาลสนาม ให้ทำงานที่บ้าน เลื่อน หรือ งดการจัดชุมนุมขนาดใหญ่และ ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติเพื่อควบคุมการระบาด
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลัง การประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า ในส่วนของสำนักแพทย์และสำนักอนามัย ได้มีมาตรการเฝ้าระวังในทุกกรณี และป้องกันในกรณีที่อาจจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากขึ้น เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างเป็นระยะที่ 3 เช่น การเตรียมสถานที่รองรับคนป่วยที่เป็นผู้เฝ้าระวัง หากได้รับการประสานจากกระทรวงสาธารณสุข และอีกส่วนเรื่องของโรงพยาบาลสนาม ซึ่งขณะนี้กทม.ได้ดูไว้แล้วว่าจะให้อยู่ตรงไหน
ในส่วนของหน้ากากอนามัยสำหรับป้องกันการติดเชื้อนั้น ขณะนี้ กทม.กำลังผลิตหน้ากากอนามัยเอง โดยโรงเรียนฝึกอาชีพกทม. 8 แห่งที่มีสอนการตัดเย็บ ซึ่งจะมีประชาชนมาร่วมทำด้วย
ขณะนี้เราผลิตได้วันละ 1,000 ชิ้น เป็นหน้ากากอนามัยแบบผ้า สามารถซักได้ นอกจากนี้ ยังสอนให้เจ้าหน้าที่และบุคคลากรในสำนักงานเขตต่างๆ ทำใช้กันเอง รวมถึงยังทำการประชาสัมพันธ์เพื่อลดความตื่นตระหนกและสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน เช่น โปสเตอร์ คลิปวิดีโอการป้องกันตัวเอง คลิปสอนทำหน้าอนามัย ทำให้ประชาชนสามารถดูแลตัวเองได้ และมีกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งในแหล่งชุมชนและพื้นที่ที่สาธารณะในรูปแบบจิตอาสาทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะบริเวณรถไฟฟ้าที่มีคนพลุกพล่าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กรมการกงสุลเรียกให้คนไทยออกจากจีน ก่อนไม่มีเครื่องบินให้บริการ
- สูตรยา “ราชวิถี” ออกดอกผล เซฟชีวิต “โควิด-19” รายที่ 2
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ในการประชุมคณะกรรมการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ ได้มีการหารือเตรียมการไว้ สำหรับกรณีหากไทยไม่สามารถควบคุมการระบาดให้จำกัดอยู่ในระยะที่ 2 ได้ ก็จะเกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างออกไปภายในประเทศ เป็นระยะที่ 3 ซึ่ง หากมีการระบาดในระยะ 3 คาดการณ์ว่าเพียงในช่วง 1-2 เดือนแรกของการระบาด อาจพบผู้ป่วยมากกว่า 1,000 รายต่อวัน
และอาจทำให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตทุกวัน ซึ่งหากเป็นในกรณีดังกล่าว มีความจำเป็นต้องออกแผนบูรณาการความร่วมมือพหุภาคีเพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบจากโรคติดเชื้อนี้ ต้องมีกรอบการประสานงานสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการป้องกันควบคุมโรคในสถานการณ์ระยะที่ 2 และเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ระยะที่ 3 ไว้ เพื่อสร้างความปลอดภัยแก่ประชาชน และลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ
ทั้งนี้ ในการประชุมมีรายงานด้วย ว่า กระทรวงต่างประเทศกำลังติดตามมาตรการที่ต่างประเทศมีต่อไทยขณะนี้ และอยู่ระหว่างการทบทวนมาตรการการตรวจตรา อีกทั้งจะมีการจัดการประชุมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง เพื่อแสวงหาแนวทางการป้องกันผลกระทบด้านความมั่นคง อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.) พร้อมให้กระทรวงกลาโหม เตรียมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เมื่อได้รับการร้องขอ
ประกอบกับการเตรียมออกกลยุทธ์การควบคุมการเเพร่ระบาดเชื้อในชุมชน เพื่อรองรับการระบาดในระยะที่ 3 เช่น กำหนดมาตรการให้ทำงานที่บ้าน ให้เลื่อน หรือ งดการจัดชุมนุมขนาดใหญ่ที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายโรค ปิดสถานที่ที่เกิดการระบาดและควบคุมการระบาดในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เช่น โรงเรียน เรือนจำ ค่ายทหาร เป็นต้น และจากนั้นจะพิจารณาประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติเพื่อควบคุมการระบาดในชุมชนด้วย
ข่าวที่น่าสนใจ
