วัฎจักรในการทำธุรกิจมาถึงจุดสุดท้าย ค่ายรถยนต์จากสหรัฐอเมริกาแห่งนี้ จะเลิกขาย’เชฟโรเลต’ อย่างถาวรในตลาดรถเมืองไทย
เป็นหลักฐานที่ชัดเจน ว่าสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย อยู่ ณ จุดใดในขณะนี้ เพราะมันปรากฏเป็นเรื่องที่จับต้องได้ กับการประกาศของ “เชฟโรเลต” รถยนต์สัญชาติอเมริกัน ที่อยู่คู่กับท้องถนนเมืองไทยมาหลายสิบปี ที่ว่านับจากสิ้นปี 2563 นี้เป็นต้นไป พวกเขาขอ “ยุติ” การขายรถยนต์ของเชฟโรเลตในทุกชนิด

เชฟโรเลต เป็นอีกแบรนด์รถยนต์ในค่าย “จีเอ็ม” หรือ เจนเนอรัล มอร์เตอร์ ที่มีโรงงานการผลิตรถยนต์สำหรับตลาดรถในประเทศไทยอยู่ที่จ.ระยอง ในเอกสารแถลงการณ์ถึงประเด็นนี้จากความรู้สึกของ แอนดี้ ดันสแตน ประธานกรรมการตลาดเชิงกลยุทธ์ พันธมิตร และ ผู้แทนจำหน่าย จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ (GM International Operation)
สะท้อนเหตุผลได้ชัดเจนว่า จีเอ็ม ได้ทำการศึกษา และ วิเคราะห์โดยละเอียดถึงแผนธุรกิจที่จะจัดสรรโครงการรถยนต์รุ่นใหม่ ให้แก่ศูนย์การผลิตในจังหวัดระยอง แต่พบว่าจะมีอัตราการใช้กำลังการผลิตของศูนย์การผลิตแห่งนี้ได้อย่างไม่เต็มที่ ตลอดจนความต้องการสินค้าในตลาดประเทศไทย และ ตลาดส่งออกที่เราคาดการณ์ไว้นั้นจะมีจำนวนน้อย อีกทั้งยังมีปัจจัยทางเศรษฐกิจหลายประการที่ไม่เอื้อต่อแผนธุรกิจนี้
“จีเอ็มทราบดีถึงผลกระทบที่จะมีต่อพนักงานและคู่ค้าของเราจากการตัดสินใจครั้งนี้ เราให้คำมั่นที่จะปฏิบัติต่อพนักงาน คู่ค้า และ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราด้วยความเคารพตลอดระยะเวลา การปรับเปลี่ยนนี้ ”แอนดี้ สำทับเอาไว้ในแถลงการณ์ครั้งสำคัญของวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ในบ้านเรา

แอนดี้ ระบุอีกว่า แผนการยุติการจัดจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตของจีเอ็มนั้น เป็นไปตามกลยุทธ์ของการดำเนินธุรกิจทั่วโลกของจีเอ็มเอง ที่ต้องเชื่อมกับการลงทุนภายในขององค์กร
กระนั้นก็ตาม หลายฝ่ายสะท้อนว่าเป็นเพราะผลพวงทางเศรษฐกิจของประเทศหรือไม่ ที่ทำให้ยักษ์ใหญ่ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลกอย่างจีเอ็ม ต้องม้วนเสื่อทิ้งถิ่นสยามกลับไปบ้านที่สหรัฐอเมริกา แต่กระนั้น เชฟโรเลตแจงว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย รวมไปถึงไม่ได้ข้องเกี่ยวกับศักยภาพ ความสามารถในฐานการผลิตของบ้านเราเช่นกัน
“การตัดสินใจในครั้งนี้ ไม่ได้สะท้อนถึงศักยภาพ และ ความสามารถของทีมงานในประเทศไทย รวมถึงผู้จัดจำหน่ายของเราแต่อย่างใด ผมต้องขอขอบคุณพวกเขาที่ทำงาน และ ให้การสนับสนุน General Motors (GM) รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยมาโดยตลอด นอกจากนี้ ผมต้องขอบคุณรัฐบาลไทย ที่ให้การสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของเรามาอย่างยาวนานในตลาดรถยนต์ที่มีการแข่งขันทางธุรกิจสูงมาก ในประเทศไทย” คำยืนยันจากแอนดี้
- “หม่อมเต่า” สั่งทุกหน่วยช่วยลูกจ้าง GM หลังถูกเลิกจ้างกระทันหัน
- รถยนต์อีโคคาร์ฮิต โตกว่า 37 % ทั่วโลก
ส่วนใครที่เป็นเจ้าของรถยนต์เชฟโรเลตอยู่ ก็อย่าเพิ่งตกใจกับข่าวนี้ เพราะพวกเขาเองก็ยังคงทำหน้าที่ดูแลรถยนต์ บำรุงรักษา ซ่อมแซมรถยนต์ของค่ายต่อไปตามกำหนดระยะเวลาที่มีอยู่ ตามศูนย์บริการที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาให้รับผิดชอบ พร้อมกันนี้ ในส่วนพนักงานของส่วนการผลิต ลูกค้า ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ของค่าย ก็จะได้รับการดูแลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
“เราให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลและให้บริการลูกค้าของเราต่อไป ท่านเจ้าของรถยนต์ Chevrolet มั่นใจได้ว่า เราจะยังคงปฏิบัติตามการรับประกันคุณภาพรถยนต์ทุกคัน และ ให้บริการหลังการขายผ่านเครือข่ายของเราในประเทศไทย Chevrolet จะร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายของเราอย่างใกล้ชิด โดยเราจะเสนอโอกาสในการปรับเปลี่ยนธุรกิจให้แก่ผู้จัดจำหน่าย ให้เปลี่ยนเป็นศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Chevrolet ” นายเฮกตอร์ กล่าว
ทั้งนี้ ลูกค้า Chevrolet สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร 1734

Infact
ความเป็นมาของ “เชฟโรเลต” ในประเทศไทย
เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2543 โดยเป็นหนึ่งในเครือของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินงานในฐานะเป็นผู้จัดสรรรถยนต์ที่ผลิตขึ้นภายใต้ชื่อและสัญลักษณ์ ทางการค้า “เชฟโรเลต” เพื่อจัดจำหน่ายในประเทศไทย ผ่านเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายของบริษัทฯ ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 94 รายทั่วประเทศ โดยมีโชว์รูมและศูนย์บริการ ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 76 จังหวัด
รถยนต์เอนกประสงค์ เชฟโรเลต ซาฟิร่า เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่บริษัทฯ เป็นผู้จัดจำหน่าย ซึ่งถือได้ว่าเป็นการบุกเบิกตลาดรถยนต์เอนกประสงค์รายแรกของประเทศไทย โดยรถยนต์เชฟโรเลต ซาฟิร่า ได้รับการต้อนรับจากผู้ใช้รถในประเทศไทยเป็นอย่างดี และจากความต้องการของตลาดในประเทศไทย ทำให้บริษัทฯ ได้ขยายตลาดสู่รถยนต์ประเภทอื่นๆ ตามมา
นับเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ที่เชฟโรเลตได้เติบโตและดำเนินกิจการในเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันมีรถยนต์เชฟโรเลตรุ่นต่างๆ วิ่งอยู่บนท้องถนนมากกว่า 1 แสนคัน รวมไปถึงจำนวนโชว์รูมและศูนย์บริการที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้อง การของกลุ่มลูกค้าที่มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับได้ว่า เชฟโรเลตเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงแห่งหนึ่งของ อุตสาหกรรมรถยนต์ ณ วันนี้ เชฟโรเลตยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพให้สมบูรณ์แบบในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิต การจัดจำหน่าย และการบริการ ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด สมกับการเป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ของโลก
ข่าวที่น่าสนใจ
