“หน้ากากอนามัย” ในประเทศต้องมีใช้ ก่อนขายให้ต่างชาติ

“หน้ากากอนามัย” ในประเทศต้องมีใช้ ก่อนขายให้ต่างชาติ


เริ่มเห็นเค้ารางว่า “หน้ากากอนามัย” ในบ้านเรา สุ่มเสี่ยงมากเหลือเกินว่าจะขาดตลาด และไม่มีใช้มากขึ้น กระทรวงอุตสาหกรรมเองมองทะลุถึงปัญหานี้ จึงประสานให้โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยที่มีอยู่ราว 10 แห่งทั่วไทย เดินหน้าการผลิตให้เต็มกำลัง เพื่อเป้าหมายเอาออกมาให้คนในประเทศใช้ก่อนที่จะคิดเอาไปขายส่งออกในต่างประเทศ

น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ โฆษกระทรวงอุตสาหกรรม ย้ำว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 อีกทั้งยังมีปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ทำให้ความต้องการใช้หน้ากากอนามัยในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก จึงประสานไปยังโรงงานการผลิตที่มี 10 แห่งใน 6 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี เชียงใหม่ และเพชรบุรี เพื่อสอบถามปริมาณการผลิต จึงพบว่าทั้งหมดมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 537 ล้านชิ้น/ปี หรือคิดเฉลี่ยผลิตเพื่อใช้ภายในประเทศ 1.2 ล้านชิ้น/วัน ในจำนวนนี้ยังไม่รวมผู้ผลิตรายย่อยที่ไม่เข้าข่ายเป็นโรงงานหรือผู้นำเข้ารายย่อย ทราบว่าโรงงานทั้งหมดขณะนี้ดำเนินการผลิตเต็มกำลังการผลิต และยังเน้นการเพิ่มรอบการทำงานเพื่อขยายกำลังการผลิตอีกด้วย

พร้อมกันนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไประสานโรงงานเพื่อให้มีการผลิตอย่างต่อเนื่องโดยให้ขอความร่วมมือโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยทุกรายผลิตให้เต็มกำลังการผลิตเพื่อใช้ภายในประเทศก่อนการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 1-2 เดือนนี้ จะทำให้กำลังการผลิตหน้ากากอนามัยของโรงงานในไทยเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน

“โรงงานส่วนใหญ่ก็ผลิตหน้ากากอนามัยเพื่อขายในประเทศอยู่แล้ว โดยขายตรงให้กับโรงพยาบาลก่อน จากนั้นจึงขยายไปยังร้านขายยา และร้านค้าปลีก” โฆษกอุตสาหกรรม กล่าว

น.ส.สุชาดา ย้ำอีกว่า ยังมีโรงงานบางแห่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่มีเงื่อนไขต้องผลิตเพื่อการส่งออก หาก 2 โรงงาน คือ บ.สยาม โคเค็น จำกัด บ.เอ็มเมอรัล นอนวูเว่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่มีการส่งออก 100% ดำเนินงานตามมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ที่จำกัดการส่งออกตั้งแต่ 500 ชิ้น ต้องขออนุญาต แม้ว่าจะมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศแล้วก็ตาม เพราะต้องการให้ความสำคัญกับการใช้ในประเทศเป็นอันดับแรก จะทำให้มีหน้ากากอนามัยเข้าสู่ระบบการใช้ภายในประเทศอีกกว่า 128 ล้านชิ้น/ปี หรือ 350,000 ชิ้น/วัน ซึ่งคาดว่าเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนแน่นอน และขอความร่วมมือผู้ค้าอย่ากักตุนสินค้า

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

เจ๋ง! กทม.สอนทำแอลกอฮอล์-หน้ากากอนามัยด้วยตนเองฟรี