กกร. ปรับลดจีดีพี ปี 63 ลง 0.5 % จาก 2.5-3.0% เหลือ 2.0-2.5% เหตุเจอหลายปัจจัยลบ โดยเฉพาะล่าสุดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ในจีน กดดันการส่งออกให้หดตัวลง ทำให้การท่องเที่ยวสูญรายได้สูงสุด 220,000 บาทหากยืดเยื้อถึง 6 เดือน
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3สถาบัน หรือ กกร. วันนี้ (5 ก.พ.63) ว่า ที่ประชุมมีการ ปรับลดประมาณการตัวเลขจีดีพีปีนี้ลงเหลือ 2.0-2.5% จากเดิม 2.5-3.0% เนื่องจากมีปัจจับลบต่อภาคเศรษฐกิจไทยในหลายด้าน
ทั้งนี้ จากการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศจีน ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะคลี่คลายเมื่อใด เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของจีนในปี2563 จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย และส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องของไทย ทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลง 28% และยังส่งผลต่อตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติอื่นๆ นอกจากชาวจีน ที่มาเที่ยวไทยชะลอตามไปด้วย เพราะมีความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโรค
กกร.มีการประเมินว่าหากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนามีความยืดเยื้อในระยะเวลา 3 – 6 เดือน ในเบื้องต้นคาดว่าจะกระทบต่อรายได้การท่องเที่ยวหายไปประมาณ 108,000 – 220,000 ล้านบาท และยังกระทบต่อการส่งออกของไทยให้ลดลง ตามไปด้วยโดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น ผลไม้ เนื่องจากด่านขนส่งสินค้าที่ไปจีนและเวียดนามปิดทำการ ซึ่งการค้าขายต้องเป็นทางเรืออย่างเดียว
นอกจากนี้ ความล่าช้าของการมีผลบังคับใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุน และภาวะภัยแล้งที่รุงแรงของไทยยังเป็นตัวฉุดกำลังซื้อของภาคครัวเรือน รวมทั้งปัญหาค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่มีผลต่อการทำกิจกรรมกลางแจ้งของประชาชน
“ปัจจับลบทั้งหมด มีผลกระทบต่อจีดีพีของประเทศอย่างแน่นอน ดังนั้น กกร.จึงได้ปรับลดประมาณการตัวเลขจีดีพีปีนี้ลงเหลือ 2.0-2.5% จากเดิม 2.5-3.0% ส่งออกยังคงเป้าหมายเดิมลบ 2 ถึง 0% เงินเฟ้อ 0.8 – 1.5% โดยจะต้องมีการติดตามการออกมาตรการของภาครัฐเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด”นายสุพันธุ์กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
