ส.ส.บัญชีรายชื่อ อนาคตใหม่ แนะรัฐเร่งติดต่อ สธ.เกาหลีใต้เตรียมรับมือสถานการณ์ไวรัสโคโรนา แจกหน้ากาก-เจลล้างมือประชาชนให้ทั่วถึง
นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงรายงานข่าวล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์โคโรนาไวรัส ในกรณีที่มีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งต้องสงสัยว่าน่าจะติดเชื้อจากการเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทย รวมถึงสถานการณ์ขาดแคลนหน้ากากอนามัยและเจลล้างมืออย่างหนักในขณะนี้ พร้อมไขข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีการใช้และกำจัดหน้ากากอนามัยที่กำลังเป็นคำถามแพร่หลายในโซเชียลมีเดียขณะนี้
ทั้งนี้ นพ.เอกภพ กล่าวว่า จริงๆแล้วข่าวนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางการไทยหรือวารสารวิชาการทางการแพทย์ใดๆ มีเพียงการตีข่าวในสื่อมวลชนทั่วไปทั้งของไทย เกาหลี และของหลายๆประเทศ ที่ระบุถึงข้อมูลเดียวกัน ว่านักท่องเที่ยวรายนี้เดินทางกลับจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 19 ม.ค. และเริ่มมีอาการเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา
โดยในเนื้อข่าวยังไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการว่านักท่องเที่ยวคนนี้เดินทางไปที่ใดมาบ้าง ผ่านประเทศจีนมาหรือไม่ หรือว่ามาสัมผัสคนติดเชื้อในประเทศไทย นี่เป็นสิ่งที่ยังไม่มีคำตอบชัดเจน และทางการไทยน่าจะต้องติดต่อไปที่กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ เพื่อถามว่าบุคคลรายนี้ได้ผ่านการสอบสวนโรคได้ความว่าอย่างไรบ้าง ไปที่ไหน ไปเจอใครมา เพื่อประเทศไทยจะได้มาสร้างระบบป้องกันได้ถูกต้อง
“ความสำคัญคือถ้าเขาติดเชื้อในประเทศไทย ไม่ได้มาจากความสัมพันธ์กับอู่ฮั่นหรือประเทศจีน แสดงว่ามีการแพร่ระบาดในประเทศไทยแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงประเทศไทยต้องเปลี่ยนวิธีการรับมือ การเฝ้าระวัง การสอบสวนโรคทันที คือเปลี่ยนสมมุติฐานใหม่หมดเลย เพราะฉะนั้น สิ่งที่ต้องทำคือต้องติดต่อให้เร็ว แล้วประกาศให้ประชาชนรู้ และดำเนินการอย่างรวดเร็ว” นพ.เอกภพกล่าว
อย่างไรก็ดี นพ.เอกภพ กล่าวอีกว่า เวลาที่มีโรคระบาดติดเชื้อเกิดขึ้น ทั่วโลกจะทำเหมือนกันคือการทำนิยามของผู้ติดเชื้อ (case definition) ซึ่ง ณ เวลานี้การนิยามผู้ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสในประเทศไทยคือนิยามว่ามาจากอู่ฮั่นและพื้นที่ใกล้เคียงและมีการสัมผัสกับคนที่มีโรค แต่จริงๆแล้วถ้าสถานการณ์เปลี่ยนไป นิยามก็ต้องเปลี่ยนตามด้วย ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าตอนนี้เราป่วยเป็นไข้ไม่สบายแล้วไปโรงพยาบาล ถ้าเราระบุข้อมูลให้หมอไปว่าเราไม่ได้มาจากอู่ฮั่น เราไม่ได้สัมผัสคนที่น่าสงสัยว่าจะติดเชื้อ เราก็ไม่ได้รับการตรวจคัดกรองโคโรน่าไวรัส แต่ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนไปเป็นมีการแพร่เชื้อในไทยเกิดขึ้นแล้ว เราไม่สบายเป็นปอดบวม เราก็อาจจะต้องตรวจวินิจฉัยไวรัสอู่ฮั่นด้วยเช่นกัน
“ถ้าถามว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้ผมว่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และทุกคนที่เกี่ยวข้องทำงานอย่างหนักเพื่อป้องกันให้ได้และเพื่อรักษาให้ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องมีการทำงานในเชิงนโยบายและในเชิงบริหารที่ดีด้วย คนทำงานจะได้สบายใจและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วย”
ทั้งนี้ นพ.เอกภพ ได้กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนกรณีที่สถานการณ์หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือกำลังขาดตลาดอย่างหนักในขณะนี้นั้น สิ่งที่รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ออกมาประกาศให้หน้ากากและเจลล้างมือเป็นสินค้าควบคุมอย่างเดียวไม่เพียงพอ ในสภาวะที่ความต้องการในตลาดมีสูง เพราะถ้ารัฐคิดว่าสุขภาพของคนไทยทุกคนสำคัญ การป้องกันโรคพวกนี้จะต้องเป็นสิ่งที่รัฐให้บริการแก่ประชาชน เปรียบเทียบแบบเดียวกันในช่วงที่มีภัยแล้ง น้ำท่วม หรือมีภัยพิบัติอื่นๆ ทุกครั้งเราจะมีการแจกถุงยังชีพ
กทม.แนะ “หน้ากากอนามัย” ใช้แล้วต้องทิ้งให้ถูกต้อง
ครั้งนี้ก็เช่นกัน นี่คือภัยภิบัติของโรคระบาด ความจำเป็นคือต้องมีอุปกรณ์ป้องกัน คือหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ อย่าให้ประชาชนต้องไปหาซื้อเองเลย เราควรต้องแจก และที่สำคัญคือหน้ากากในไซส์ของเด็กหายากมาก ผู้ใหญ่ที่ว่าหายากแล้วของเด็กหายากกว่า เพราะฉะนั้น สิ่งที่รัฐจะต้องทำคือต้องแจก อย่าให้ประชาชนต้องหาซื้อด้วยตัวเองเลย
“ส่วนกรณีที่กำลังมีคำถามเกิดขึ้นในโลกโซเชียลมีเดีย ถึงวิธีการทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วให้ถูกวิธีและไม่เป็นการแพร่เชื้อนั้น คำแนะนำคือว่าเชื้อไวรัส มีข้อดีของมันคืออยู่ในสิ่งแวดล้อมหรืออากาศอาจจะได้ไม่นานนัก แต่เราไม่รู้แน่ชัดในตอนนี้ว่าโคโรน่าไวรัสอยู่ในสภาพทั่วไปได้นานกี่ชั่วโมง หากเราตีเสียว่าอยู่ได้นาน 10-15 ชั่วโมงหรืออาจจะวันหนึ่งถามว่าจะทำอย่างไรดี
ผมขอแนะนำตั้งแต่เรื่องของวิธีการถอดหน้ากาก ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก คือเราอย่าเอามือไปสัมผัสข้างนอก แต่ให้ใช้มือเกี่ยวหูออกโดยอย่าให้มือไปโดนข้างหน้าหน้ากาก แล้วเราก็ทิ้งไป ถ้าจะให้ดีจะแยกถุงทิ้งก็ได้ แล้วเก็บไว้ที่บ้านก่อนสักวันถึงสองวัน แล้วค่อยผูกรวมกันแล้วเขียนเอาไว้ว่าเป็นหน้ากากแล้วค่อยทิ้งก็ได้ การทำลายหน้ากากแบบนี้อาจจะไม่จำเป็นต้องนำไปฆ่าเชื้อทำลายเป็นขยะติดเชื้อที่โรงพยาบาลก็ได้ ทิ้งธรรมดาแต่แยกทิ้งก็พอ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการล้างมือบ่อยๆ เวลาถอดหรือสัมผัสหน้ากากแล้วให้ล้างมือทุกครั้งก็ช่วยได้เช่นกัน” นพ.เอกภพ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
138 คนไทยถึงบ้านแล้ว หลังการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา พบ 3 รายไม่ได้ขึ้นเครื่อง
