ผลักแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลฯ 3 ปี 2563ไม่ต้องขอสำเนาบัตรปชช.ทะเบียนบ้าน

by ThaiQuote, 19 พฤศจิกายน 2562

รองนายกฯ สมคิด ผลักดัน แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลฯ 3 ปี ห้ามขอสำเนาเอกสาร เชื่อมข้อมูลผ่านทุกหน่วยงานรัฐ เพื่อให้ ณ จุดเดียว ภายในปี 2563 ไม่ต้องขอสำเนาบัตรประชาชนและใบทะเบียนบ้าน

 

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ครั้งที่ 1/ 62 1.เห็นชอบ ร่างแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย ( 63 – 65) 2.การเตรียมยกเลิกการขอสำเนาฯ จากประชาชนของส่วนราชการ ภายในปี 63 3. เตรียมให้ สำนักงาน กพร. กำหนดตัวชี้วัดให้หน่วยงานภาครัฐดำเนินการตามธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ ตามแนวทางที่ สพร. เสนอ ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป และ 4. เปิดมาตรการระยะสั้นและระยะยาวเดินหน้าโครงการนำร่องศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จของภาครัฐ (One - Stop Service) ซึ่งเป็นช่องทางดิจิทัลในการเข้าถึงบริการรัฐ ณ จุดเดียว (Digital Government Service) เพื่อรองรับการให้บริการประชาชน (Citizen Platform) ผู้ประกอบการ (Business Platform) และชาวต่างชาติ (Foreigner Platform)

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า รัฐบาลพร้อมฝ่าคลื่น Digital Disruption ด้วยการเร่งเดินหน้าตามมติที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ครั้งที่ 1/2562 ทั้งในเรื่องของการมองอนาคตประเทศผ่าน (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2563 – 2565 โดย สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. หรือ DGA ที่เป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานอื่นเกี่ยวกับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล การลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน ด้วยการตั้งเป้าให้หน่วยงานราชการต้องยกเลิกเรียกสำเนาฯ โดยเฉพาะสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านให้ได้ภายในปี 2563 ซึ่งก็จะเป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่รัฐบาลวางเอาไว้ในการผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลของส่วนราชการเข้ากับศูนย์ข้อมูลต่างๆ อาทิ Linkage Center ของกรมการปกครอง Government Data Exchange (GDX) ของ DGA ข้อมูลการนำเข้าส่งออกเชื่อมโยงกับระบบ National Single Window (NSW) ของกรมศุลกากร เป็นต้น และสิ่งที่สามารถสร้าง Value มากที่สุดในยุคนี้คือ “ข้อมูล” รัฐบาลจึงกำหนดให้มีการนำธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ (Data Governance) มาเป็นแกนสำคัญในการประยุกต์ใช้ Big Data ภาครัฐที่มีอยู่มหาศาลเพื่อเพิ่ม Effectiveness ของนโยบายในการพัฒนาประเทศระยะยาว

เมื่อทุกหน่วยงานเชื่อมโยงข้อมูลมาที่ศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลางภาครัฐ (Government Data Exchange: GDX) เรียบร้อยแล้ว โครงการที่จะเกิดขึ้นตามมาแน่นอน คือ โครงการนำร่องศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จของภาครัฐ (One - Stop Service) ที่ คกก. DG เห็นชอบมาตรการระยะสั้นและระยะยาวตามที่ DGA เสนอเพื่อรองรับการให้บริการประชาชน (Citizen Platform) ผู้ประกอบการ (Business Platform) โดยในปี 2563 ให้สำนักงาน ก.พ.ร. และ DGA ร่วมกันดำเนินการการเพื่อขยายจำนวนใบอนุญาตในระบบ Biz Portal จาก 2563 40 ใบอนุญาต ใน 10 ธุรกิจ เป็น 78 ใบอนุญาต ใน 25 ธุรกิจ เพื่อให้บริการเบ็ดเสร็จแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมรองรับการยืนยันตัวตนด้วย Digital ID การยื่นคำขอ การอนุมัติ/อนุญาต การออกใบอนุญาต การชำระค่าธรรมเนียมแบบ e-Payment การออกใบอนุญาตแบบ e-Licensing และติดตามสถานะของการขออนุญาตได้ด้วย และให้หน่วยงานต่างๆ ใช้ Biz Portal หรือ เว็บไซต์ biz.govchannel.go.th เป็นอีกช่องทางในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และดำเนินการเชื่อมโยงระบบงานที่เกี่ยวข้องเข้ากับระบบ Biz Portal ในปี 2563

และให้หน่วยงานที่มีศูนย์ให้บริการร่วมในภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม เริ่มนำระบบ Biz Portal มาอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการทั่วประเทศในการยื่นขอใบอนุญาตสำหรับประเภทธุรกิจหรือใบอนุญาตที่ให้บริการผ่านระบบ Biz Portal ได้แล้ว ภายใน 6 เดือน โดยให้มีการปรับปรุงระบบสามารถรองรับ และอีกช่องทางการอำนวยความสะดวกคือ การให้บริการชาวต่างชาติ (Foreigner Platform) สามารถรายงานตัว 90 วัน ผ่านแอปพลิเคชันโดยตรงกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ทุกที่ทั่วประเทศ และสำหรับมติในที่ประชุมวันนี้ท่านรองนายกรัฐมนตรีสมคิดเน้นย้ำว่า ให้เริ่มที่การพัฒนาบุคลากรภาครัฐก่อน โดยเฉพาะ CIO ของทุกกระทรวงให้เปลี่ยนบทบาทหน้าที่แบบเดิมสู่ Digital Transformation ให้ได้อย่างแท้จริงเพื่อให้แผนต่างๆ ที่วางไว้ก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว

รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองกล่าวว่า ทั้งนี้ คกก. DG มีเป้าหมายสำคัญในการปรับเปลี่ยนภาครัฐสู่รัฐบาลดิจิทัลภายใน 3 ปี ดังนี้
- จัดทำธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐภายใน 3 ปี
- ยกระดับทักษะดิจิทัลที่จำเป็นของคนภาครัฐภายใน 3 ปี
- ข้อมูลดิจิทัลภายใน 3 ปี
- ปรับบริการให้เป็นดิจิทัลภายใน 3 ปี
- เกิดศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ (GDX)
- เกิด Digital Platforms สำหรับบริการทุกภาคส่วน
- ไม่ใช้สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านภายใน 1 ปี
- เกิดบริการ One Stop Service สำหรับทุกภาคส่วน
- เปิดเผยข้อมูลภาครัฐภายใน 3 ปี
- สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนผ่าน e-Participation
- การใช้ Data Analytic เพื่อใช้ประโยชน์ข้อมูลดิจิทัล

ร่าง แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย ปี63 – 65 เพื่อ ปรับเปลี่ยนไปสู่ Digital Transformation ในการเดินหน้าสร้างรากฐานสู่ Open & Connected Government และการมีแผน Digitize เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานให้ทุกกระทรวงมุ่งสู่รัฐบาลดิจิทัลในที่สุด เมื่อรับฟังความเห็นจากประชาชนแล้ว สรุปเสนอ ครม.พิจารณาเห็นชอบในต้นปี 63

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

“สมคิด”ยังพอใจจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวร้อยละ 2.4