7 ผู้นำอาเซียน ตอบโต้ ทรัมป์ ไม่เข้าร่วมประชุมอาเซียน-สหรัฐอเมริกา

7 ผู้นำอาเซียน ตอบโต้ ทรัมป์ ไม่เข้าร่วมประชุมอาเซียน-สหรัฐอเมริกา


ผู้นำชาติสมาชิกอาเซียน 7 ชาติ ตอบโต้สหรัฐ ที่ประธานาธิบดีไม่มาร่วมประชุมอาเซียน-สหรัฐ พร้อมใจกันส่ง รัฐมนตรีต่างประเทศเข้ามาชุมแทน ขณะผู้แทนสหรัฐ ออกตัว ยืนยันรัฐบาลวอชิงตันไม่มีทางทอดทิ้งภูมิภาคแห่งนี้

วันนี้ ( 4 พ.ย. 62) เวลา 10.30 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้แทนประเทศสมาชิกอาเซียน และนายโรเบิร์ต ซี. โอไบรอัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ผู้แทนพิเศษของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 7 ณ ห้อง Sapphire 203 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

รายงานข่าวเปิดเผยว่า บรรยากาศของการประชุมอาเซียน-สหรัฐครั้งนี้ หลัง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่มาประชุมด้วยตัวเอง แต่ส่งผู้แทนพิเศษ รัฐบาลสหรัฐ ในนามประธานาธิบดีสหรัฐ คือ นายโรเบิร์ต มานั่งหัวโต๊ะประชุมแทน โดยไม่มีสถานะในคณะรัฐมนตรี(ครม.)ชุดปัจจุบันของทรัมป์ ทำให้ผู้นำชาติสมาชิกอาเซียน 7 ชาติ หรือ เกือบทั้งหมด จึงส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมหารือแทน ทำให้มีเพียงพลเอกประยุทธ์ ในฐานะเจ้าภาพ นายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรี เวียดนาม ซึ่งจะทำหน้าที่ประธานอาเซียนในปีหน้า และนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว ในฐานะประเทศผู้ประสานงานอาเซียน-สหรัฐ เท่านั้น ที่เข้าร่วมประชุมด้วยตัวเอง โดยผู้นำที่ไม่ร่วมประชุมในวงนี้ได้ แก่ กัมพูชา เมียนมา บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์

ในการประชุมครั้งนี้ นายโรเบิร์ต กล่าวว่า ผู้นำสหรัฐเชิญผู้นำอาเซียนร่วมประชุมเป็นกรณีพิเศษ ที่อเมริกาในปีหน้า พร้อมทั้งยืนยันรัฐบาลวอชิงตันไม่มีทางทอดทิ้งภูมิภาคแห่งนี้

ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวให้การต้อนรับนายโรเบิร์ต ซี. โอไบรอัน อย่างเป็นทางการ ในฐานะประธานอาเซียน ชื่นชมบทบาทที่แข็งขันของสหรัฐฯ ในการสนับสนุนสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคซึ่งช่วยให้อาเซียนได้พัฒนาเป็นประชาคมที่มีพลวัตและความเจริญรุ่งเรือง และขอบคุณที่สหรัฐฯ สนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียนผ่านกลไกสำคัญรวมไปถึง กรอบการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (อีเอเอส) เออาร์เอฟ และเอดีเอ็มเอ็มพลัส และในปีนี้ อาเซียนและสหรัฐฯ ได้ร่วมกันจัดการฝึกร่วมทางทะเล เป็นครั้งแรก เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

สหรัฐฯ ยังมีบทบาทสนับสนุนมุมมองของอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเสริมสร้างเสถียรภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจดิจิทัล และพลังงาน รวมถึงการมีบทบาทของนักลงทุนสหรัฐฯ ที่เป็นกำลังขับเคลื่อนสำคัญต่อการเจริญเติบโตในภูมิภาคที่ครอบคลุมและยั่งยืน

ในการนี้ ผมยินดีที่ภาคเอกชนไทยและสหรัฐฯ ร่วมกันริเริ่มจัดการประชุม Indo-Pacific Business Forum ครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทย ในวันนี้ ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าการประชุมในวันนี้เป็นโอกาสอันดีที่อาเซียนและสหรัฐฯ จะได้แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ และหวังที่จะเห็นพัฒนาการในการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของอาเซียน-สหรัฐฯ ในทุกมิติ เพื่อนำไปสู่ผลประโยชน์ของประชาชนอาเซียนและสหรัฐฯ อย่างก้าวหน้าและยั่งยืน

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนนักลงทุนสหรัฐฯ ให้ร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาค รวมถึงสาขาที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งบทบาทที่แข็งขันของสหรัฐฯ นี้จะช่วยต่อยอดการสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมองไปสู่อนาคต ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดหลักของการประชุมอาเซียนในปีนี้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกส่วนที่มีส่วนร่วมในการแสดงวิสัยทัศน์ และขอบคุณ สปป.ลาว ที่ทำหน้าที่ประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ อย่างมีประสิทธิภาพตลอดปีที่ผ่านมา

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

“บิ๊กตู่” เจรจา “อาเบะ” เชื่อมโยงยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาค