“จุรินทร์”ควง “เฉลิมชัย” คิกออฟจ่ายเงินส่วนต่างในโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ ลั่นถือเป็นวันประวัติศาสตร์ที่มีการเพิ่มรายได้ให้กับชาวสวนยาง และจะดำเนินการไปตลอดอายุรัฐบาลชุดนี้ เผยจ่ายรวม 3 งวด พร้อมประกาศเดินหน้าดันราคา ดึงโรงงานยางเข้ามาลงทุน เร่งใช้ยางทำถนน และผลักดันส่งออก
วันนี้ (1 พ.ย.62) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานคิกออฟการจ่ายเงินส่วนต่างในโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ว่า
“วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์วันหนึ่งของประเทศไทย เพราะตั้งแต่มีประเทศไทยมา ยังไม่เคยมีวันนี้มาก่อน โดยเป็นวันแรกที่มีการจ่ายเงินส่วนต่างถึงมือเกษตรกรทุกคน ตามนโยบายประกันรายได้ของรัฐบาล ไม่ใช่การประกันราคา เพราะขัดหลักการองค์การการค้าโลก (WTO) แต่เป็นการประกันรายได้ ที่จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ 2 ทาง จากการขายยางตามราคาตลาด และรายได้ส่วนต่างที่จะจ่ายให้ โดยใช้เวลาดำเนินการแค่ 98 วัน และจะดำเนินการไปตราบเท่าที่ยังมีรัฐบาลชุดนี้”
ทั้งนี้ รัฐบาลประกันรายได้ยางแผ่นดิบคุณภาพดีที่กิโลกรัม (กก.) ละ 60 บาท และน้ำยางสด 57 บาทต่อกก. และยางก้อนถ้วยที่ 23 บาทต่อกก. โดยจะได้สิทธิครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ ซึ่งหากเกษตรกรมีสวนยาง 25 ไร่พอดี สำหรับยางแผนดิบ จะได้เงินส่วนต่างจากราคาตลาดกับราคาประกันรายได้ที่ 10,515 บาท น้ำยางสด 9,640 บาท และยางก้อนถ้วน 6,810 บาท และจะโอนให้ทุก 2 เดือน ซึ่งเริ่มงวดแรกวันที่ 1-15 พ.ย.2562 งวดที่ 2 วันที่ 1 ม.ค.2562 และงวดที่ 3 วันที่ 1 มี.ค.2562
สำหรับเกษตรกรบัตรสีชมพูจะมีสิทธิ์ได้เงินส่วนต่างหรือไม่ ยืนยันว่าได้ โดยขออย่างเดียว ขอให้ปลูกจริง แจ้งจริงว่าปลูกชนิดไหน กี่ไร่ ไม่ใช่ทำยางก้อนถ้วย แต่ไปแจ้งทำยางแผ่นดิบ อันนี้ไม่ได้ เพราะเงินส่วนต่างไม่เท่ากัน จากนั้นการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จะเข้าไปตรวจสวน และแจ้งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) จากนั้น ธ.ก.ส. จะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีพี่น้องประชาชน
นายจุรินทร์กล่าวว่า รัฐบาลยังมีนโยบายเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร โดยจะสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชแซมในสวนยาง การเร่งการใช้ยางในประเทศให้มากขึ้น โดยจะส่งเสริมให้มีการลงทุนในอุตสาหกรรมยาง ซึ่งอีกไม่กี่วันจะมีข่าวดีที่ภาคตะวันออก จะมีการตั้งโรงงานขยายการผลิตอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท จะทำให้มีการใช้ยางในประเทศมากขึ้น การเร่งรัดให้มีการนำยางพาราไปทำถนน ทำสนามกีฬา และจะเร่งรัดผลักดันการส่งออก ซึ่งที่ผ่านมา ได้ไปขายที่อินเดีย ขายได้ 1 แสนตัน นำเงินเข้า 9,000 ล้านบาท และจะไปตุรกีและเยอรมันเพื่อบุกตลาดยางพารา มั่นใจว่าจะมีข่าวดี รวมถึงจีน ที่จะมีข่าวดีขายยางได้ในปริมาณที่มาก คาดว่าไม่เกินกลางเดือนนี้
“ผมไปอินเดียมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเราสามารถพานักลงทุนไปเปิดตลาดยางที่อินเดียได้สำเร็จ โดยขายยางได้ 100,000 ตัน นำเงินเข้าประเทศ 9,000 กว่าล้านบาท จากนี้ไปอีกไม่กี่วันหลังประชุมอาเซียน ผมจะไปบุกตลาดยางที่ตุรกีและเยอรมัน ซึ่งมั่นใจว่าจะมีข่าวดีให้กับพี่น้องเกษตรกร ขณะที่จีนยังถือเป็นตลาดใหญ่ ซึ่งเราจะขายยางในปริมาณที่มากให้กับประเทศจีน โดยคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาได้ไม่เกินกลางเดือนนี้”นายจุรินทร์กล่าว
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติโครงการเมื่อวันที่ 15 ต.ค.2562 จนถึงวันนี้ ใช้เวลาเพียง 16 วัน แต่หากนับจากวันแถลงนโยบาย ใช้เวลา 98 วัน ที่สามารถจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกร ซึ่งเกษตรกรที่มีบัตรสีเขียวและสีชมพูรวม 1,711,252 ราย พื้นที่สวนยางรวม 17,201,391 ไร่ หรือประมาณ 86% ของพื้นที่ทั้งหมด จะได้รับสิทธิรับเงินส่วนต่างประกันรายได้ในครั้งนี้
สำหรับปริมาณยางที่จะประกันรายได้ (ยางแห้ง) 240 กิโลกรัม/ไร่/ปี หรือ 20 กิโลกรัม/ไร่/เดือน ระยะเวลาดำเนินการต.ค.2562–ก.ย.2563) ระยะเวลาประกันรายได้ 6 เดือน ต.ค.2562-มี.ค.2563 จ่ายเงินชดเชย 2 เดือน 1 ครั้ง โดยธ.ก.ส. จะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรชาวสวนยาง งวดที่ 1 จ่ายระหว่าง วันที่ 1–15 พ.ย.2562 , งวดที่ 2 จ่ายระหว่างวันที่ 1–15 ม.ค.2563 และงวดที่ 3 จ่ายระหว่างวันที่ 1–15 มี.ค.2563 โดยแบ่งสัดส่วนรายได้เจ้าของสวนร้อยละ 60 และคนกรีดร้อยละ 40
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจบพิธีเปิดนายจุรินทร์พร้อมด้วยนายเฉลิมชัย ยังได้ร่วมเป็นสักขีพยานการเบิกเงินส่วนต่างของเกษตรกรที่ได้รับเงินจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางแล้ว นอกจากนั้นนายจุรินทร์ยังได้โชว์ฝีมือในการกรีดยางภายในงานอีกด้วย
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
“จุรินทร์”นั่งประธานอาเซียนคุยวาระหลักให้อาเซียนพร้อมรับการปฏิวัติอุตฯครั้งที่ 4
