“อุตตม” หนุนคนไทย “ออมเงิน” มากขึ้น เผย รัฐวางระบบสมทบให้แก่อย่างมีคุณภาพ

“อุตตม” หนุนคนไทย “ออมเงิน” มากขึ้น เผย รัฐวางระบบสมทบให้แก่อย่างมีคุณภาพ


รมว.คลังเผยรัฐเตรียมกระตุ้นคนไทยใส่ใจออมเงินมากขึ้น เผย รัฐวางระบบสมทบ หวังให้เกษียณอย่างมีคุณภาพ และมีเงินใช้ยามชรา

 

วันที่ 31 ตุลาคม 2562 – นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยในงาน “วันออมแห่งชาติ” ว่า ปัจจุบันรัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และให้ประชาชนเกษียณอย่างมีคุณภาพ มีรายได้ที่เหมาะสม และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีผ่านระบบการออมเงิน

ทั้งนี้ รัฐบาลจึงมีเป้าหมายให้ประชาชนไทยที่มีอายุระหว่าง 15 – 60 ปี เป็นแรงงานนอกระบบ และยังไม่มีสวัสดิการอื่นใดรองรับ สามารถมีบำเหน็จบำนาญใช้ในยามเกษียณเหมือนกับข้าราชการ และแรงงานในระบบ จากเงินออมสะสมของตนเอง และเงินที่รัฐสมทบเพิ่มอีกส่วนหนึ่ง

“ประชาชนออมขั้นต่ำเพียง 50 บาท สูงสุด 13,200 บาทต่อปี ได้เข้าถึงสิทธิในการออมเพิ่มมากขึ้น ตามบริบทของชีวิต คือ มีมากออมมาก มีน้อยออมน้อย มีเมื่อไหร่ก็ออมได้ สิทธิการเป็นสมาชิกยังคงอยู่ ซึ่งปัจจุบัน มีรายงานว่าในกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) มีสมาชิกเพิ่มขึ้นจากปี 2561 จากจำนวนสมาชิก 610,683 คน ก้าวกระโดด ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 สูงถึง 2.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 263

 

ปัจจุบัน กอช. มีเงินกองทุนกว่า 6,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นจากปี 2561 ก้าวกระโดดขึ้นมาในปี 2562 คิดเป็นร้อยละ 263 โดยสมาชิกส่วนใหญ่ เกือบร้อยละ 50 ประกอบอาชีพเกษตรกร รองลงมาไม่ระบุอาชีพ ร้อยละ 24 และไม่ได้ประกอบอาชีพ ร้อยละ 7″ นายอุตตม กล่าว

ด้านน.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการ กอช. กล่าวว่า ในปี 2563 กอช.จะลงพื้นที่ให้ความรู้กับนักเรียน นักศึกษาในสถานศึกษาเพิ่มมากขึ้น พร้อมสร้างสถานศึกษาต้นกล้าการออมครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ ให้ตระหนักถึงการสร้างวินัยการออมในอนาคต ด้วยการวางแผนอนาคตออมเงินกับ กอช. เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินหลังอายุ 60 ปี ให้มีกิน มีใช้ในอนาคตโดยเฉพาะในวัยเกษียณ

 

ทั้งนี้ ในรูปแบบ เมื่อส่งเงินออมสะสมตั้งแต่ 50 บาท สูงสุด 13,200 บาทต่อปี รัฐจะจ่ายเงินสมทบให้ในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปตามช่วงอายุของสมาชิก พร้อมรับประโยชน์เพิ่มอีก 3 ต่อ ดังนี้

ต่อที่ 1 รับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐ ตามช่วงอายุของสมาชิก

• ช่วงอายุ 15 – 30 ปี รัฐสมทบให้ 50% ของเงินออมแต่ละครั้ง

โดยรวมกันทั้งปีไม่เกิน 600 บาท คิดเป็นดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร 4.54%*

• ช่วงอายุ >30 – 50 ปี รัฐสมทบให้ 80% ของเงินออมแต่ละครั้ง

โดยรวมกันทั้งปีไม่เกิน 960 บาท คิดเป็นดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร 7.27%*

• ช่วงอายุ >50 – 60 ปี รัฐสมทบให้ 100% ของเงินออมแต่ละครั้ง

โดยรวมกันทั้งปีไม่เกิน 1,200 บาท คิดเป็นดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร 9.09%*
(*เงินสมทบจากรัฐบาลคิดเป็นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ)

ต่อที่ 2 ผลตอบแทนของเงินออมสะสม และเงินสมทบที่นำไปลงทุน

ต่อที่ 3 ลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวนเงินออมสะสม

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครสมาชิก กอช. เพียงมีอายุ 15-60 ปี โดยสามารถตรวจสอบสิทธิก่อนการสมัครได้ที่แอปพลิเคชัน “กอช” หรือที่ www.nsf.or.th หรือธนาคารของรัฐบาลทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคาร ธ.ก.ส. ธอส. ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ที่ว่าการอำเภอ เคาน์เตอร์เซอร์วิส เทสโก้โลตัส ตู้บุญเติม ทั่วประเทศ รวมทั้งสำนักงานคลังจังหวัด สถาบันการเงินชุมชน และเครือข่ายรับสมัครทั่วประเทศ

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
รมต.คลัง ขอสรุปผล ชิมช้อมใช้1-2 ก่อนเดินหน้าเฟส 3