มือแฮกรับแล้ว! เจาะระบบ “ชิมช้อปใช้” หวังผลประโยชน์ธุรกิจ

มือแฮกรับแล้ว! เจาะระบบ “ชิมช้อปใช้” หวังผลประโยชน์ธุรกิจ


รมว.ดิจิทัลฯ-ปอท.แถลงจับแฮกเกอร์ป่วนระบบ “ชิมช้อปใช้” เฟส 2 หนุ่มก่อเหตุรับทำเพราะหวังผลธุรกิจ และทดลองเจาะระบบผ่านโปรแกรมที่สร้างขึ้นเอง

วานนี้ (29 ต.ค.2562) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แถลงข่าวการจับกุมผู้ก่อเหตุป่วนระบบ “ชิมช้อปใช้” เฟส 2 หลังจากที่ตำรวจ ปอท.นำหมายศาลเข้าตรวจค้นและอายัดของกลางเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และของกลางอื่นๆ รวม 17 รายการ ได้จากบ้านพักหลังหนึ่งใน ต.จะบังติกอ อ.เมืองฯ จ.ปัตตานี

 

พร้อมควบคุมนายธีรณัฐ มหัทธโนบล อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ฐานกระทำการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวน จนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

นายพุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า มีการประสานข้อมูลกับตำรวจให้สืบสวนจับผู้ก่อเหตุ ซึ่งพยายามใช้โปรแกรมที่สร้างขึ้นมาเองเจาะเข้าสู่ระบบลงทะเบียนชิมช้อปใช้ เฟส 2 โดยใช้เวลาเพียง 2 วันจึงสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้ จากการสอบสวนพบว่า นายธีรณัฐไม่ได้ทำเป็นครั้งแรก แต่เคยทำมาตั้งแต่โครงการเฟสแรกแล้ว ซึ่งในครั้งนั้นใช้โปรแกรมอัตโนมัติ หรือบอต เข้าไปก่อกวนระบบจำนวนไม่มาก คล้ายเป็นการทดลองชุดคำสั่ง จึงไม่ส่งผลกระทบมากนัก

ส่วนวิธีการที่ใช้ก่อเหตุ เริ่มจากการสร้างชุดคำสั่งและนำไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อเชิญชวนให้คนนำไปใช้งาน จากนั้นในวันเกิดเหตุก็จะแฝงบอตไปกับคนที่นำชุดคำสั่งดังกล่าวไปใช้ เพื่อเข้าไปในระบบพร้อมๆ กัน

“โดยมีเป้าหมายเพื่อเข้าไปจองพื้นที่ลงทะเบียน ซึ่งหากทำสำเร็จก็อาจถูกนำไปใช้ทำประโยชน์ทางธุรกิจ เช่น ต่อรองผู้เสียหาย ขายพื้นที่จับจองในระบบ หรือหักเปอร์เซ็นต์ส่วนต่าง”นายพุทธิพงษ์ กล่าว

ด้าน พลต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผู้บังคับการ ปอท. เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุลงมือเพียงคนเดียว ไม่พบคนสั่งการอยู่เบื้องหลังและไม่พบว่ามีเจตนาพังระบบ แต่คล้ายกับต้องการทดลองวิธีการเจาะเข้าระบบ โดยหลังจากนี้จะขยายผลต่อไปว่าจะต้องดำเนินคดีกับประชาชนที่นำชุดคำสั่งดังกล่าวไปใช้งานหรือไม่ ซึ่งต้องรอตรวจสอบข้อมูลที่หลงเหลือในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และตรวจสอบไปยังเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในต่างประเทศด้วย

นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุเกี่ยวกับการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในทางที่ผิดอีกหลายคดี โดยมีหลักฐานเป็นซิมโทรศัพท์นับพันชิ้น ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลดำเนินคดีต่อไป

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
รวบแล้ว มือป่วน “ชิมช้อปใช้” พบวัยรุ่นวัยแค่ 19 ปีแต่เจ๋งด้าน “ไอที”