“พาณิชย์”เคาะหลักเกณฑ์การประกันรายได้เกษตรกรปลูกข้าวแล้ว ประกันรายได้ข้าวเปลือก 5 ชนิด เตรียมประกาศราคาอ้างอิงครั้งแรก 16 ต.ค.นี้ จากนั้นประกาศทุก 15 วัน เผยเกษตรกรจะได้รับเงินชดเชยครั้งเดียว จ่ายเข้าบัญชี ธ.ก.ส. แล้วแต่ว่าตอนขึ้นทะเบียน แจ้งเก็บเกี่ยวไว้ช่วงไหน
วันนี้ (27ก.ย.62) ที่กระทรวงพาณิชย์ นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ลงนามประกาศคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2562/63 รอบที่ 1 เพื่อช่วยเหลือด้านรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลแล้ว หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบหลักการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวภายในกรอบวงเงินงบประมาณ 2.14 หมื่นล้านบาท
สำหรับหลักเกณฑ์การประกันรายได้ เกษตรกรจะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2562/63 ระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-31 ต.ค.2562 ยกเว้นภาคใต้ 16 มิ.ย.2562-28 ก.พ.2563 และต้องแจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวในการขึ้นทะเบียน เพื่อใช้เป็นข้อมูลช่วงเวลาที่เกษตรกรจะได้รับสิทธิชดเชย
โดยกำหนดราคาประกันข้าว 5 ชนิด คือ
1. ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน
2. ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละ 16 ตัน
3. ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาท ครัวเรือนละ 30 ตัน
4. ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละ 25 ตัน
5. ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละ 16 ตัน
แต่ถ้าเกษตรกรปลูกข้าวมากกว่า 1 ชนิด จะได้สิทธิไม่เกินจำนวนขั้นสูงของข้าวแต่ละชนิด และเมื่อรวมกันต้องไม่เกินขั้นสูงของข้าวชนิดที่กำหนดไว้สูงสุด
ส่วนการกำหนดราคาอ้างอิง คณะอนุกรรมการฯ จะประกาศราคาอ้างอิงครั้งแรกในวันที่ 16 ต.ค.2562 จากนั้นจะประชุมเพื่อกำหนดราคาอ้างอิงทุกๆ 15 วัน จนถึงวันสิ้นสุดโครงการประกันรายได้ คือ วันที่ 31 ต.ค.2563 และการจ่ายเงินชดเชย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ภายใน 3 วัน นับจากวันที่ได้รับราคาอ้างอิงจากคณะอนุกรรมการฯ ซึ่งเกษตรกรจะได้รับสิทธิครั้งเดียว
ข่าวที่น่าสนใจ
“พาณิชย์” จัดแพ็กเกจชุดใหญ่ ช่วย ปชช.-ร้านโชห่วย ภาคธุรกิจ เจอน้ำท่วม
