กระทรวงพาณิชย์ ประกาศศักยภาพแฟรนไชส์ไทย เตรียมผลักดันสู่ตลาดสากล จำนวน 27 ธุรกิจ พบธุรกิจแฟรนไชส์ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงคึกคักโดยเฉพาะกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง (CLMV) ถือเป็นทำเลทองในการขยายธุรกิจของไทย ชี้! แฟรนไชส์ไทยมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 2.8 แสนล้านบาท มั่นใจ!แฟรนไชส์ไทยยังไปได้อีกไกลและเป็นกลุ่มธุรกิจสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เข้มแข็ง

นายวุฒิไกรลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์(นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล) ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มีความเข้มแข็งผ่านการสนับสนุน ส่งเสริม สร้าง และขยายธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ เพื่อให้แฟรนไชส์ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศโดยมุ่งเน้นกลยุทธ์สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรเดินหน้าส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจแบบบูรณาการ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม หรือ Ecosystem ที่เอื้อต่อการขับเคลื่อนธุรกิจแฟรนไชส์ไทยให้เติบโตอย่างเข้มแข็งทั้งในประเทศและพร้อมเดินหน้าสู่ตลาดสากล”

“ล่าสุด กรมฯ เตรียมผลักดันผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ที่ผ่านการอบรมโครงการ“แฟรนไชส์ไทยก้าวสู่สากล : Thai Franchise Towards Global” และมีความพร้อมในการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศจำนวน 27 ธุรกิจ ประกอบด้วย ประเภทอาหาร 12 ธุรกิจ ,เครื่องดื่ม 5 ธุรกิจ ,การศึกษา4 ธุรกิจ , ธุรกิจบริการ 4 ธุรกิจ ,ความงามและสปา 1 ธุรกิจ ,ค้าปลีก 1 ธุรกิจ
โดยเฉพาะตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง (CLMV) หลังพบว่าธุรกิจแฟรนไชส์ในกลุ่มประเทศดังกล่าวมีอัตราการขยายตัวต่อเนื่องและผู้บริโภคชื่นชอบ ให้ความสนใจในธุรกิจแฟรนไชส์ไทยเป็นอย่างมาก โดยมองว่าแฟรนไชส์ไทยมีอัตลักษณ์ที่โดดเด่น มีความเข้มแข็งของทุนทางวัฒนธรรมมีภาพลักษณ์ที่ดี และมีความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะกลุ่มแฟรนไชส์อาหารและเครื่องดื่มอีกทั้ง ลักษณะของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความคล้ายคลึงกันไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิต ค่านิยม รวมถึงวัฒนธรรมในการบริโภค
ดังนั้นการส่งออกธุรกิจแฟรนไชส์ไปยังกลุ่มประเทศเหล่านี้ จึงนับเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่สำคัญของผู้ประกอบการและเป็นกลุ่มประเทศเป้าหมายแรกในการนำธุรกิจแฟรนไชส์ไทยขยายสาขาไปยังต่างประเทศ” อธิบดีฯ กล่าว

อธิบดีฯ ยังกล่าวอีกว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยที่จะสามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้ต้องมีระบบการบริหารจัดการรูปแบบแฟรนไชส์ที่เข้มแข็งมีมาตรฐานเป็นที่เชื่อถือ และสร้างนวัตกรรม เทคโนโลยีเพื่อรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้ง ต้องมีองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการด้านการเงินและการลงทุนระหว่างประเทศกฎระเบียบของประเทศที่ต้องการไปลงทุน ฯลฯซึ่งถือเป็นความท้าทายของผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ของไทยที่ต้องการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ

ทั้งนี้ กรมฯได้ดำเนินการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ไทยมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพการส่งเสริมให้ธุรกิจขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็งยั่งยืนโดยเน้นหลักการดังนี้
1.)การสร้างมาตรฐานคุณภาพที่มีความน่าเชื่อถือ
2.)การสร้างภาพลักษณ์แก่ตราสินค้าและวางกลยุทธ์การตลาดที่จะเอื้อต่อการขยายสาขา การลงทุน
3.)ยึดหลักการพัฒนาตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธุรกิจแฟรนไชส์ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้แฟรนไชส์ไทยมีความเข้มแข็ง และพร้อมแข่งขันในทุกตลาด
“สำหรับโครงการ“แฟรนไชส์ไทยก้าวสู่สากล : Thai Franchise Towards Global”เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่กรมฯ จะเดินหน้าผลักดันธุรกิจแฟรนไชส์ไทยสู่ตลาดสากลอย่างครบวงจรเพื่อให้เกิดการส่งเสริมธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) บ่มเพาะธุรกิจให้ได้รับองค์ความรู้รอบด้านการได้ทดลองฝึกปฏิบัติจริง รวมถึงการสร้างเครือข่ายธุรกิจเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างกัน” นายวุฒิไกร กล่าว

ทั้งนี้จากข้อมูลของธนาคารกสิกรไทยพบว่า ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์ไทยมีมูลค่าตลาดโดยรวมกว่า 2.8 แสนล้านบาทมีอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 20.3 ต่อปีโดยในแต่ละปีมีผู้ประกอบการรายใหม่สนใจเข้าสู่ธุรกิจแฟรนไชส์กว่า 15,000 – 20,000 ราย ทั้งนี้ธุรกิจแฟรนไชส์ถือเป็นกลุ่มธุรกิจสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เข้าถึงกลุ่มธุรกิจที่ครอบคลุมทุกระดับเริ่มตั้งแต่
1.แฟรนไชส์ขนาดเล็กที่พบได้ในลักษณะหน้าร้าน (Kiosk) หรือ Mobile Unit : Food Truck ตามแหล่งชุมชน
2.แฟรนไชส์ขนาดกลางที่แพร่หลายตามศูนย์การค้าและสถานีบริการน้ำมัน
3.แฟรนไชส์ขนาดใหญ่ที่อยู่บนห้างสรรพสินค้าจนกระทั่งแฟรนไชส์กลุ่มที่แข็งแกร่งจนสามารถขยายตลาดสู่ต่างประเทศได้

“ผมมั่นใจว่าแฟรนไชส์ไทย ยังคงเป็นธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งและเจริญเติบโตได้อีกนาน รวมทั้งเป็นธุรกิจที่จะสามารถสร้างความมั่นคงให้แก่เศรษฐกิจของประเทศได้อย่างต่อเนื่องยั่งยืน”อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
ตีกรอบ“แฟรนไชส์” กำหนดพฤติกรรมต้องห้าม กันต้นตำรับเอาเปรียบคนซื้อ
