สายหวานกระอัก ! น้ำอัดลมทั้งโค้ก-เป๊ปซี่และน้ำสีปรับราคาขึ้นขวดละ 2-3 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป ผลมาจากการปรับภาษีความหวานของกรมสรรพสามิต
จากนโยบายของทางกรมสรรพสามิตจะมีการปรับภาษีความหวานตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยเครื่องดื่มให้ความหวาน น้ำอัดลม และเครื่องดื่มชูกำลัง จะปรับอัตราภาษีขึ้นอีก 15 สตางต์ ถึง 1 บาทต่อขวดขนาด 1 ลิตร และจะทยอยปรับอัตราเพิ่มไปสูงสุดที่ 5 บาท ในปี 2564
จากผลกระทบดังกล่าวส่งผลให้ตั้งแต่ 1 สิงหาคมนี้ เหล่าบรรดาน้ำอัดลมทั้งสองยี่ห้อดัง “โค้ก”และ “เป๊ปซี่” สูตรมีน้ำตาลแบบดั้งเดิมปรับขึ้นเฉลี่ยขวดละ 2-3 บาท ส่งผลให้ราคาขายปลีกโค้กขวดแก้วขนาด 185 มล.ปรับขึ้นจากเดิม 5 บาท เป็น 7 บาท ,ขนาด 1 ลิตร ปรับขึ้นจากเดิม 17 บาท เป็น 20 บาท ส่วนขนาด 280 มล.ขนาด 422 มล.ยังไม่ปรับขึ้นราคา
ส่วนโค้กและเป๊ปซี่ขวดพลาสติกใส ขนาด 330 มล.ปรับขึ้นจากเดิม 10 บาท เป็น 12 บาท ,ขนาด 450 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 12 บาท เป็น 15 บาท ,ขนาด 590 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 15 บาท เป็น 17 บาท ยกเว้นขนาด 1.2 ลิตร ที่จำหน่ายอยู่ที่ราคา 30 บาทเท่าเดิม เช่นเดียวกับน้ำอัดลมสูตรไม่มีน้ำตาลก็ยังขายราคาเท่าเดิมทั้งขวดขนาด 330 มล.ขาย 10 บาท และขวดขนาด 450 มล.ขาย 12 บาท
สำหรับเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่เป็นน้ำสีอย่างแฟนต้า รวมทั้งสไปรท์ บรรจุขวดพลาสติกใสขนาด 330 มล.ปรับขึ้นจากเดิม 10 บาท เป็น 12 บาท ,ขนาด 450 มล.ปรับขึ้นจากเดิม 12 บาท เป็น 15 บาท และน้ำมะนาวโซดา ขนาด 400 มล. ปรับขึ้นจากเดิม 15 บาท เป็น 17 บาท ส่วนเบรนด์ “มิรินด้า” และ “เอส” ทั้งน้ำดำและน้ำสียังไม่ปรับขึ้นราคาเพราะยังเป็นการขายจากสินค้าสต๊อกเดิม ทางด้านกลุ่มเครื่องดื่มน้ำชาเขียว เครื่องดื่มชูกำลัง และน้ำผลไม้อื่นๆ ยังไม่มีรายงานการปรับราคา
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
อากาศร้อนจัด สรรพสามิตขึ้นภาษี “น้ำอัดลม”
