กระทรวงการคลังเตรียมงบ 1 แสนล้านให้รัฐบาลใหม่เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ เน้นกระตุ้นกำลังซื้อ ช่วยเหลือรากหญ้า สร้างความมั่นใจภาคเอกชน
นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เร่งจัดทำข้อมูลทางเศรษฐกิจ วงเงินงบประมาณ มาตรการดูแลเศรษฐกิจเพื่อเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณา โดยแนวทางเบื้องต้นกระทรวงการคลังได้มีงบประมาณ 1 เสนล้านบาท ซึ่งนำมาจากงบกลางและงบส่วนอื่นเพื่อนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งคิดว่ามีเพียงพอไม่จำเป็นต้องนำทุนสำรองเบิกจ่ายออกมาใช้
“ปัญหาของเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ คือ ความเชื่อมั่น ซึ่งกระทบต่อความมั่นใจในการบริโภคและการลงทุน ดังนั้นนโยบายการคลังจะต้องเข้ามาเสริม เมื่อได้รัฐบาลใหม่แล้วกระทรวงการคลังจะต้องเร่งกระตุ้นให้เกิดความเชื่อมั่นทำให้ภาคเอกชนมีความเข้มแข็งและกระตุ้นการบริโภค โดยระยะเร่งด่วน ควรดำเนินการผ่านความช่วยเหลือไปยัง ระดับรากหญ้า โดยเฉพาะในภาคเกษตรกร ประเภทพืชไร่ต่างๆ เพื่อให้เกิดกำลังซื้อ”นายประสงค์ กล่าว
สำหรับแนวทางที่เสนอจะเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลุ่มธุรกิจภาคเอกชนมีความเข้มแข็ง และอีกกลุ่มเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร ดูแลพืชไร่ที่ประสบปัญหากำลังซื้อ และราคาผลผลิตตกต่ำ เพื่อช่วยยกระดับกำลังซื้อ และทำให้เศรษฐกิจฐานรากดีขึ้นมาตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเพราะขณะนี้เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังมีปัญหา แต่พื้นฐานในประเทศไทยก็ยังไปได้ดีอยู่ เห็นได้จากยอดการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งสะท้อนถึงการใช้จ่าย รวมถึงภาษีอื่นๆก็ทำได้เกินเป้าหมาย
นายประสงค์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเมื่อทั่วโลกเกิดปัญหาวิกฤต โดยเฉพาะระยะ 5 ปีที่ผ่านมา การแก้ปัญหาของแต่ละประเทศคือการกระตุ้นกำลังซื้อภายในเพื่อสร้างความเข้มแข็ง ทั้งนี้ สิ่งที่สะท้อนการบริโภคที่ชะลอตัว คือ เรื่องของความเชื่อมั่น อย่างไรก็ตาม ในแง่การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต) ยังเก็บได้เกินเป้าหมาย หน่วยจัดเก็บบางแห่งอาจจะจัดเก็บ ได้เกินเป้าหรือต่ำเป้าไปบ้าง แต่ในภาพรวมยังไปได้ดี โดยหลังจากที่กระทรวงการคลังปรับเป้าหมายการจัดเก็บของแต่ละกรมใหม่ ก็ทำให้แต่ละกรมมียอดจัดเก็บเกินเป้าหมายวางไว้
สำหรับแนวทางที่กระทรวงการคลังนำเสนอรัฐบาลใหม่จะพูดถึงสถานการณ์เศรษฐกิจ แนวทางรายละเอียดงบประมาณที่ใช้มีอะไรบ้าง เมื่อทำออกมาแล้วจะใช้งบประมาณเท่าไร มีข้อดีและข้อเสียของแต่ละมาตรการอย่างไร แต่สุดท้ายมาตรการจะออกมาเป็นแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับที่รัฐบาลใหม่เป็นคนตัดสินใจ
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
