ดร.สมคิด แนะเอกชนเร่งปรับตัวรองรับยุคดิจิทัล ถ้าไม่ปรับตัวต้องพับเสื่อ ส่งเสริมโครงการพี่ช่วยน้อง ย้ำพื้นฐานเศรษฐกิจยังเข้มแข็ง คาดหลัง ครม. ชุดใหม่เตรียมผลักดันหลายโครงการเดินหน้าต่อ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเปิดงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 23 ว่า การทำตลาดสินค้ายุคใหม่ ต้องใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี เข้ามาพัฒนาสินค้า เพราะการตลาดแห่งอนาคต หลีกหนีไม่พ้นในเรื่องความรู้ ระบบ AI ตลาดออนไลน์ การใช้ BIG Data วิจัยข้อมูล ความต้องการของตลาดและลูกค้า ช่วงที่ผ่านจึงเห็นการค้าในสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เอกชนรายใดไม่ปรับตัว เตรียมจอดป้ายเก็บกระเป๋ากลับบ้านได้เลย เพราะการตลาดยุคใหม่อยู่ได้ด้วยการปรับตัว ทั้งการใช้เงิน การใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์แทบทั้งสิ้น ที่ผ่านมาจึงเห็นรายเล็กทำตลาดยุดใหม่ กลายเป็นผู้ครองตลาด ส่วนรายใหญ่ในตลาดโลกหลายราย ไม่ปรับตัวกลับหดกิจการเป็นรายเล็ก หรือเปลี่ยนกิจการไปทำอย่างอื่น หรือปิดตัวลง ยอมรับว่าอันดับในการแข่งขันของประเทศที่ขยับดีขึ้นมาจากคะแนนของหน่วยงานภาครัฐ ขณะที่การปรับตัวของเอกชนยังไม่คืบหน้า จึงต้องศึกษาปรับตัวอีกมาก
นายสมคิด กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาคเอกชนรายใหญ่หลายรายได้สนับสนุนโครงการสานพลังประชารัฐ ผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ จำนวนมาก แต่ต้องการให้ขยายวงความร่วมมือให้กว้างขึ้น เพราะเอกชนรายเล็กจำนวนมากต้องได้รับความช่วยเหลือส่งเสริมจากเอกชนรายใหญ่ ผ่านโครงการพี่ช่วยน้อง เพื่อให้ขายสินค้าได้ ประชาชนรายย่อยยังต้องการดูแลลดภาระค่าครองชีพ ยอมรับว่าขณะนี้เป็นรอยต่อของรัฐบาลเดิมและรัฐบาลชุดใหม่ โครงการขนาดใหญ่บางโครงการต้องรอการตัดสินใจ เดินหน้ายังไม่ได้สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของหลายสำนักออกมาไม่ดี เป็นสิ่งที่อยู่ในการคาดการณ์ไว้ เพราะตั้งแต่มีการเลือกตั้งปัจจัยหลายด้าน หลายอย่างชะลอลงไป
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยืนยันว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแรงมาก ตลาดหุ้นขยับขึ้นต่อเนื่อง ค่าเงินบาทแข็งค่าสะท้อนเศรษฐกิจยังดี และพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังรองรับปัจจัยเสี่ยงที่ผ่านมาได้ดี ยังมีเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพราะต่างชาติมองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง ขณะนี้การเมืองเริ่มชัดเจน เมื่อมี ครม. ใหม่ในไม่ช้าจะเดินหน้าต่อไปได้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายมีความเชื่อมั่น จะได้เริ่มขับเคลื่อนทุกอย่างให้เป็นปกติได้ ในส่วนงบลงทุนแม้จะล่าช้าออกไป ยังใช้กรอบใช้จ่ายเดิมพลางไปก่อน แต่โครงการลงทุนขนาดใหญ่ ต้องเร่งรัดแผนลงทุน อย่าให้หยุดชะงัก จึงต้องผลักดันร่วมกันให้เดินหน้าต่อไป แม้จะเป็นพรรคร่วม ทุกพรรคต่างเห็นความสำคัญของการลงทุน หากล่าช้าเกินไปประเทศเพื่อนบ้านจะแซงได้.
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
“สมคิด” สั่ง ธ.ก.ส. เตรียมการบ้าน เสนอ รมว.คลังคนใหม่