จากความทันสมัยของวิทยาการด้านสาธารณสุขทำให้คนอายุยืนขึ้น แต่ด้วยปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม มลพิษ และพฤติกรรมความเป็นอยู่ทำให้คนที่อายุยืนกลับเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อม
เมื่อเร็วๆ นี้นับเป็นครั้งแรกที่องค์การอนามัยโลก หรือ ดับเบิลยูเอชโอ ได้ออกแนวทางปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงการเป็นโรคสมองเสื่อม
ข้อเสนอแนะของทางดับเบิลยูเอชโอ ได้มีการนำข้อมูลมาแจกแจงให้เห็นว่าวิธีการไหนช่วยหรือไม่ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคดังกล่าว ตลอดจนแนะให้หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มาก นอกจากนี้ยังแนะนำว่าการรับประทานอาหารที่ดียังคงเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ และปฏิเสธการรับประทานวิตามินว่าเป็นสิ่งที่ไม่ก่อประโยชน์ พร้อมกับแสดงข้อมูลว่าไม่พบหลักฐานว่าการฝึกสมองจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคสมองเสื่อม
ปัจจุบันนี้มีคนทั่วโลกราว 50 ล้านคน เป็นโรคสมองเสื่อมและกำลังพบมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ยังไม่มีวิธีใดรักษาโรคนี้ให้หายขาด แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถทำได้เพื่อลดความเสี่ยงหรือชะลอการเกิดสมองเสื่อม
ในรายงานของบีบีไทยระบุว่า เรื่องอายุที่เพิ่มมากขึ้นถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่รุนแรงที่สุด แต่นั่นไม่ใช่ผลพวงที่เกิดขึ้นเองหรือหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อคนมีอายุมากขึ้น แม้พันธุกรรมจะมีส่วนสำคัญ แต่คนเราสามารถลดปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่จะทำให้เกิดโรคนี้ได้ และที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญหลายคนแนะว่าการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตช่วยป้องกันการเกิดโรคสมองเสื่อมได้ถึง 1 ใน 3
สิ่งที่องค์การอนามัยโลกแนะนำเพื่อช่วยชะลอโรคสมองเสื่อมได้แก่
1 ออกกำลังกาย ผู้ใหญ่ รวมทั้งผู้สูงอายุ ควรออกกำลังกายในระดับปานกลาง-หนัก อย่างน้อย 150 นาที ต่อสัปดาห์ โดยทำได้ตั้งแต่การขี่จักรยาน หรือทำกิจกรรมทั่ว ๆ ไปอย่างทำงานบ้าน
2 เลิกสูบบุหรี่ เพราะไม่เป็นผลดีต่อทั้งสมองและร่างกาย
3 ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งอุดมไปด้วยผัก ปลา และผลไม้ ถือว่ามีประโยชน์
4 ไม่ต้องห่วงเรื่องการรับประทานวิตามิน เพราะไม่มีหลักฐานว่าช่วยลดความเสี่ยงการเกิดสมองเสื่อม
5 หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก มีการศึกษาบางชิ้นชี้ว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อยอาจป้องกันการเกิดโรคสมองเสื่อมได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานมากเพียงพอที่จะสนับสนุนแนวคิดนี้
6 ฝึกสมอง มีการศึกษาบางชิ้นชี้ว่าการเล่นอักษรไขว้ และเกมคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ อาจเป็นประโยชน์ต่อสมอง
7 รู้จักออกสังคม แม้จะไม่มีหลักฐานว่าจะหยุดยั้งหรือชะลอการเกิดสมองเสื่อมได้ แต่การได้พบปะเพื่อนฝูง ก็ทำให้คนมีสุขภาพกายและใจดี
8 ควบคุมน้ำหนักตัวให้ดี สิ่งนี้ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่ดีและออกกำลังกายให้เพียงพอที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรง
9 ระวังเรื่องความดันโลหิต เพราะการเกิดสมองเสื่อมนั้นเกี่ยวพันกับอาการความดันสูง
10 ถ้าเป็นเบาหวานต้องรักษา การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ รวมทั้งโรคสมองเสื่อม
11 อย่าให้คอเลสเตอรอลสูง เพราะถือเป็นปัจจัยเสี่ยง ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่ชี้ว่ายาลดคอเรสเตอรอล สตาติน ป้องกันความเสี่ยงได้
ข่าวของบีบีซีไทยระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญหลายคนขานรับแนวทางขององค์การอนามัยโลกในเรื่องนี้ ดร.แครอล รูตเรดจ์ แห่งอัลไซเมอร์รีเสิร์ช ยูเค บอกว่าแม้จะเปลี่ยนแปลงยีนที่อยู่ในร่างกายไม่ได้ แต่การทำตามคำแนะนำนี้ถือว่าเป็นประโยชน์
ด้านฟิโอนา คาร์ราเกอร์ แห่งอัลไซเมอร์ โซไซตี้ กล่าวว่า นับเป็นข้อเสนอแนะที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ ขณะที่ ศ.โรเบิร์ต โฮวาร์ด ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยลอนดอน บอกว่า คงจะต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปีกว่าจะพบวิธีในการชะลอหรือหยุดยั้งการเกิดโรคสมองเสื่อมได้ ดังนั้นการป้องกันไว้ในเวลานี้น่าจะดีกว่ารอวิธีรักษาที่ยังเป็นเรื่องในอนาคต.
ขอขอบคุณ : บีบีซีไทย
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
