แบงก์ชาติดัน “คลินิกแก้หนี้เฟส 2” ดีเดย์ลงทะเบียน 15 พ.ค.นี้

แบงก์ชาติดัน “คลินิกแก้หนี้เฟส 2” ดีเดย์ลงทะเบียน 15 พ.ค.นี้


มาแล้ว! “คลินิกแก้หนี้ระยะที่ 2” ขยายขอบเขตให้รวมหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลของผู้ประกอบการ Non-bank ลงทะเบียน 15 พ.ค.นี้

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า โครงการ “คลินิกแก้หนี้ระยะที่ 2” ที่จะเริ่มต้นในวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 นี้ ได้เพิ่มการขยายขอบเขตให้รวมหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลของผู้ประกอบการ Non-bank ซึ่งโครงการนำร่องระยะแรกนั้น จะครอบคลุมเฉพาะหนี้ของธนาคารพาณิชย์เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนโครงการระยะที่ 2 จะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ในวงกว้างและเบ็ดเสร็จมากขึ้น เนื่องจากลูกหนี้ของ Non-bank มีจำนวนกว่า 80% ของหนี้ทั้งหมด ซึ่งโครงการในระยะที่ 2 นี้ มีผู้ประกอบการ Non-bank อีก 19 แห่ง เข้าร่วมโครงการ และเมื่อรวมกับธนาคารพาณิชย์ 16 แห่งที่มีอยู่แล้ว จะทำให้โครงการคลินิกแก้หนี้ มีสถาบันการเงินและ Non-bank เข้าร่วมโครงการรวม 35 แห่ง ครอบคลุมการแก้หนี้สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเกือบทั้งระบบคือกว่า 99%

อย่างไรก็ตาม ในส่วนลูกหนี้ที่ต้องการร่วมโครงการ จะต้องมีคุณสมบัติคือ เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 65 ปี โดยมีหนี้เสียค้างเกินกว่า 3 เดือน กับธนาคารตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไปก่อนวันที่ 1 มกราคม 2562 และมียอดหนี้ไม่เกิน 2 ล้านบาท และต้องยังไม่ถูกดำเนินคดี

“ขณะนี้ ผู้ประกอบการ non-bank อย่างน้อย 8 ราย เห็นถึงความสำคัญของโครงการที่จะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชน และแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการ ได้แก่
1. บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด
2. บริษัท ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
3. บริษัท เทสโก้ คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด
4. บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด
5. บริษัท พรอมิส (ประเทศไทย) จำกัด
6. บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด
7. บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
8. บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน)” นายวิรไท กล่าว

อนึ่ง โครงการคลินิกแก้หนี้ เป็นโครงการของภาครัฐที่เข้ามาช่วยเหลือแก้ปัญหาหนี้ที่ลูกหนี้มีเจ้าหนี้หลายราย โดยให้โอกาสผ่อนชำระหนี้สำหรับลูกหนี้ได้สูงสุดถึง 10 ปี อีกทั้งยังเป็นการลดภาระรายจ่ายต่อเดือนไม่ให้มากเกินไป เช่น ลูกหนี้ที่มียอดหนี้ 50,000-100,000 บาท หากเข้าร่วมโครงการจะผ่อนชำระต่อเดือนที่ 600 บาท และ 1,200 บาทตามลำดับ

ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท บริหาร สินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM)โทรศัพท์ 0 2610 2266 หรือสมัครที่เว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
ใหม่! “สลากออมสินดิจิทัล” หน่วยละ 20 บาท รางวัลสูงสุด 2 ล้าน