คุณเคยลำบากใจกับการตัดสินใจในการเลือกที่ จะอยู่ หรือ จะไป จากใครซักคนหรือที่ไหนซักแห่งไหมครับ ถ้าเคย…คุณใช้อะไรมาช่วยตัดสินใจ..??
“กาเซี่ยง” ฉลาดเฉลียว สติปัญญาเหนือคน แต่ใช้ชีวิตสมถะ สันโดษและแสนจะเรียบง่าย เขาเริ่มงานในสังกัดของตั๋งโต๊ะ เมื่อตั๋งโต๊ะสิ้นชีพลง เขาก็ทำงานต่อให้กับลิฉุยและกุยกี ซึ่งเป็นทีมงานเก่าของตั๋งโต๊ะต่ออีกที จนเมื่อลิฉุยและกุยกีแตกคอกัน
และเมื่อแผนการที่เขาเสนอให้กลับไร้ค่า เขาจึงควบม้าหนีออกมาตอนกลางดึก
ก่อนจะเข้าไปทำงานให้กับเตียวเจ และจนเมื่อเตียวเจเสียชีวิตลง เขาจึงทำงานให้เตียวสิ้ว หลานของเตียวเจ ต่ออีกที
อยู่กับเตียวสิ้ว เขาสร้างผลงานมากมาย ทำให้เตียวสิ้วมีบริษัทเป็นของตัวเอง
และเคยวางแผนเล่นงานให้ โจโฉ แพ้ยับเยินสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิตครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะโจโฉ ไม่ใช่แค่หนีตายธรรมดา แต่ต้องเสียลูกชายคนโต หลานชาย และทหารคนสนิทไป เพราะปัญญาและแผนการของกาเซี่ยงด้วย
จนเมื่อครั้งที่สองมหาอำนาจ โจโฉ และ อ้วนเสี้ยว จะเปิดศึกกัน ทั้งสองฝ่ายพยายามจะดึงเตียวสิ้ว เจ้านายของกาเซี่ยง เข้าเป็นแนวร่วม
ขณะนั้นกำลังของอ้วนเสี้ยวมากกว่าโจโฉถึง 10 ต่อ 1 และเตียวสิ้วก็เคยฝากรอยแค้นไว้กับโจโฉ เตียวสิ้วจึงเทใจไปทางฝั่งของอ้วนเสี้ยว แต่กาเซี่ยง ทัดทานไว้และให้เหตุผลว่า…
“อ้วนเสี้ยวมีกำลังทหารมาก…ถ้าเราเข้าไปร่วมด้วย เราจะไม่มีความสำคัญ เราจะไม่มีค่า ต่างจากโจโฉ ที่มีกำลังทหารน้อยกว่า…หากเราเข้าร่วมด้วย เขาจะยินดีและให้ความสำคัญ เราจะมีค่า และอีกอย่าง…โจโฉนั้นเป็นคนใจนักเลง เขาจะไม่ถือสาเอาความในเรื่องเก่าอย่างแน่นอน”
และเป็นตามที่กาเซี่ยงกล่าวไว้ทุกประการ
เมื่อเตียวสิ้วและกาเซี่ยงเข้าร่วมกับโจโฉ โจโฉยินดีเป็นอย่างมาก ให้ของรางวัลแก่เตียวสิ้ว และตั้งกาเซี่ยงเป็นที่ปรึกษา
จนเมื่อโจโฉ สามารถปราบอ้วนเสี้ยวลงได้
กาเซี่ยง จึงเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญที่คอยให้คำแนะนำแก่โจโฉ เขาได้รับเกียรติและตำแหน่งอย่างสูงในบริษัท
แต่เขากลับใช้ชีวิตอย่างสมถะเรียบง่าย และไม่ทำตัวโดดเด่น จนเมื่อโจโฉเสียชีวิตลง เขาจึงรับใช้ลูกชายของโจโฉ ต่ออีกที
และให้คำปรึกษาจนลูกชายของโจโฉสามารถตั้งตัวเป็นประธานบริษัทเองได้
สุดท้ายเขาเสียชีวิตลงอย่างสงบในวัย 77 ปี จบชีวิตการทำงานในหลากหลายบริษัท ที่ไม่เคยถูกภัยจากการเมืองในองค์กรเล่นงานเลย…แม้แต่ครั้งเดียว
ผมเห็นหลายต่อหลายคนแสดงทัศนะ วิพากษ์วิจารณ์ถึงคนที่ย้ายงานบ่อยๆ หรือกลุ่มคนที่มีอันต้องแยกทางกันไป
ด้วยเหตุผลต่างๆ มากมาย โน่น นี่ นั่น เยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งสมควรบ้าง…และไม่สมควรบ้าง
ซึ่งบางทีเหตุผลในการตัดสินใจของเขา มันไม่ได้ซับซ้อน อะไรมากมายเลยนะครับ กลับกัน…มันเป็นเหตุผลที่แสนจะธรรมดาเสียด้วยซ้ำ
เพราะมันก็แค่…
“อยู่ที่ไหนแล้วมีคุณค่า ก็จงไปอยู่ที่นั่น”
ต่างจากบางคนที่ยอมทนอยู่อย่างไร้ค่าด้วยคำสัญญาเก่าๆ ที่ไม่ถูก Update ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
ทนอยู่กับคำว่าจงรักภักดี แบบไม่ลืมหูลืมตา “ทนอยู่อย่างไร้ค่า…สูญสิ้น หมดราคา”
เพื่อ…????
ลองเปิดโอกาสให้กับตัวเองดูนะครับ ที่ไหน…กับใคร ที่คุณไปอยู่ด้วยแล้วมีคุณค่า ก็ควรจะพาตัวเองไปอยู่ในที่แห่งนั้น
ถึงแม้จะไม่ร่ำรวย แต่รับรองว่าจบสวยแบบ “กาเซี่ยง” แน่นอนครับ
ด้วยความปรารถนาดี “สามก๊ก…ตั้งวงเล่า”
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
