กระทรวงพาณิชย์ สั่งการทูตพาณิชย์ในจีน 9 แห่ง เดินหน้าขยายตลาดสินค้าไทยเจาะเข้าสู่เมืองรองของจีนให้ได้เพิ่มมากขึ้น
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ใช้โอกาสช่วงที่เดินทางไปเข้าร่วมการประชุม Belt and Road Forum for International Cooperation (BRF) ครั้งที่ 2 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อปลายเดือน เม.ย.2562 ประชุมร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำอยู่ในจีน 9 แห่ง ให้เร่งขยายตลาดสินค้าไทยและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้กับสินค้าไทยในจีนให้ได้เพิ่มมากขึ้น โดยให้เน้นไปยังมณฑลตอนกลาง ตอนเหนือของประเทศ ที่เป็นที่ตั้งของเมืองรองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ
“ปัจจุบัน ไทยสามารถส่งออกสินค้าเจาะเข้าสู่มณฑล และเมืองหลักของจีนได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว คุนหมิง หนานหนิง ชิงเต่า เซียะเหมิน รวมถึงฮ่องกง ทำให้สินค้าไทยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น และมีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาผู้บริโภคชาวจีนแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายมณฑล หลายเมือง ซึ่งเป็นเมืองรอง ที่ไทยยังเจาะเข้าไปไม่ถึง และส่วนใหญ่เป็นเมืองที่มีโอกาสสูงในการขยายตลาด จึงได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์เร่งทำตลาดในเมืองรองเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น”
สำหรับเมืองรองที่จะเร่งขยายตลาด เช่น กุ้ยโจว หูหนาน สินค้าที่มีลู่ทาง คือ ผลไม้สด ยูนนาน สินค้าที่มีลู่ทาง ได้แก่ เครื่องปรุงรส ขนมขบเคี้ยว ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง กล้วยไม้ หนิงเซียะ กานซู สินค้าที่มีลู่ทาง ได้แก่ สินค้าฮาลาล ซานตง เหอเป่ย จี๋หลิน เหลียวหนิง สินค้าที่มีลู่ทาง ได้แก่ ยางพารา มันสำปะหลัง ผลไม้สด เครื่องสำอาง อันฮุย เหอหนาน หูเป่ย สินค้าที่มีลู่ทาง ได้แก่ อาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค และธุรกิจโลจิสติกส์ ฝูเจี้ยน เจียนซี สินค้าที่มีลู่ทาง ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค ไม้ยางพารา
น.ส.ชุติมากล่าวว่า ยังได้สั่งการให้ทุกสำนักงาน ติดตามกฎระเบียบการค้า โดยเฉพาะการตรวจเข้มตามด่านการค้าระหว่างประเทศของจีน ทั้งทางรถยนต์และทางเรือ ติดตามความคืบหน้าโครงการตรวจโรงสีและโรงงานไก่ของหน่วยงานด้านการควบคุมคุณภาพสินค้าของจีน และขอให้สำนักงานในจีน เร่งทำการตลาดเพื่อเพิ่มช่องทางการค้าสินค้าเกษตรแปรรูปและนวัตกรรม เช่น ข้าวอินทรีย์ ข้าวสี รวมถึงข้าว กข 43 ซึ่งเป็นข้าวที่ดีต่อสุขภาพ
นอกจากนี้ ขอให้ต่อยอดความนิยมทุเรียนไทยของผู้บริโภคชาวจีน เพราะนอกจากการบริโภคแบบสดแล้ว ยังมีการนำทุเรียนมาทำเป็นขนมขบเคี้ยว อาหาร และนำทุเรียนมาเป็นวัตถุดิบหลักในการแปรรูปหรือเป็นส่วนประกอบของสินค้าต่างๆ เช่น การนำใบอ่อนของทุเรียนมาเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (แผ่นมาส์กหน้า) รวมทั้งเครื่องดื่มที่มีการแต่งกลิ่นทุเรียน (น้ำนมมะพร้าวหรือน้ำนมข้าวรสทุเรียน) เป็นต้น
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในการเจาะตลาดจีน กรมฯ จะพิจารณาการบุกเจาะเมืองรองของจีนผ่านการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในมณฑลต่างๆ เพิ่มมากขึ้น แต่ในระยะเร่งด่วน จะนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าตามหัวเมืองใหญ่ของจีนก่อน เช่น งาน Canton Fair งาน China International Import Expo (CIIE) เนื่องจากเป็นงานที่มีผู้นำเข้าจากทั่วประเทศจีนเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก น่าจะเปิดตัวและแนะนำสินค้าไทยให้ชาวจีนรู้จักได้เพิ่มขึ้น ส่วนงานแสดงสินค้าอื่นๆ ที่กรมฯ ได้เข้าร่วมมาอย่างต่อเนื่อง เช่น งาน China-ASEAN Expo (CAEXPO) และ Top Thai Brands Kunming มั่นใจว่าจะช่วยต่อยอดทำให้ผู้บริโภคในภูมิภาคจีนตอนใต้และตะวันตกได้รู้จักสินค้าไทยเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ กรมฯ ยังมีแผนที่จะจัดกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้าของจีนในมณฑล และเมืองรองเป้าหมายเพิ่มมากขึ้น และจะเพิ่มการขายสินค้าไทยเข้าสู่ช่องทาง e-commerce ชั้นนำของจีน เช่น Alibaba.com , Tmall.com , JD.com , Kunming.1688.com เป็นต้น เพราะสามารถใช้เป็นช่องทางขยายสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดจีนได้ทั้งประเทศ
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
อาหาร-ผักแพง ค่าโดยสาร-ค่าเช่าบ้านขึ้น ดันเงินเฟ้อ เม.ย.พุ่ง 1.23%