สภานิติบัญญัติอิหร่านอนุมัติร่างกฎหมาย ระบุ กองกำลังทหารสหรัฐฯ อยู่ในสถานะ “ผู้ก่อการร้าย” ภายหลังภายหลัง สหรัฐฯเตรียม คว่ำบาตรประเทศที่ซื้อน้ำมันจากอิหร่าน
สำนักข่าวอัลจาซีรา ได้เผยแพร่ข่าว ระบุว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติของอิหร่านได้อนุมัติร่างกฎหมายที่ระบุให้ กองกำลังทหารสหรัฐฯ ทั้งหมดอยู่ในสถานะ “ผู้ก่อการร้าย” ภายหลังจากที่สหรัฐอมเริกา เพิ่มแรงกดดัน รัฐบาลอิหร่าน ด้วยการคาดโทษ ประเทศคู่ค้าน้ำมันกับอิหร่าน ซึ่งจะได้รับการคว่ำบาตรจากสหรัฐอมเริกา
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าว กำลังทำให้สถานการณ์ความบาดหมางระหว่าง 2 ประเทศ ก้าวเข้าสู่คตวามรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยสมาชิกสภานิติบัญญัติอิหร่านได้อนุมัติให้ขึ้นบัญชีกองทหารสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางเป็น “ผู้ก่อการร้าย” อันเป็นการตอบโต้ต่อการที่สหรัฐขึ้นบัญชีกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ในฐานะกลุ่มก่อการร้ายเมื่อเดือนก่อนหน้านี้
สำหรับการขึ้นบัญชีดำของสหรัฐต่อ IRGC (ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในการขึ้นบัญชีต่อหน่วยงานของประเทศอื่น) เป็นการเพิ่มแรงคว่ำบาตรอีกชั้นหนึ่งต่อกองกำลังทหารที่ทรงอำนาจ ทำให้กลายเป็นอาชญากรรมภายใต้เขตอำนาจศาลของสหรัฐฯ เพื่อตัดการสนับสนุนด้านวัตถุ-ยุทโธปกรณ์ต่อ IRGC
ตามรายงานระบุว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย.62 ที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารของทรัมป์ประกาศว่า จะขยายมาตรการคว่ำบาตรต่อประเทศที่นำเข้าน้ำมันอิหร่าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการมาตรการเพื่อเพิ่ม “แรงกดดันสูงสุด” ที่มีเป้าหมายเพื่อกำจัดรายได้จากการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน
ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการยืนยันการขึ้นบัญชีก่อนหน้านี้ของอิหร่านต่อหน่วยบัญชาการกลางสหรัฐฯ หรือที่รู้จักกันในชื่อ CENTCOM และกองกำลังทั้งหมดเป็น “องค์กรก่อการร้าย” ความช่วยเหลือทางทหารและที่ไม่ใช่ทางทหาร รวมถึงการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ แก่ CENTCOM ที่สามารถเป็นอันตรายต่อ IRGC จะถือเป็นการกระทำ “ก่อการร้าย”
นอกจากนี้สภานิติบัญญัติของอิหร่านยังขอให้หน่วยงานข่าวกรองของอิหร่านจัดทำรายชื่อผู้บัญชาการ CENTCOM ทั้งหมดภายในสามเดือน เพื่อให้ผู้พิพากษาของอิหร่านสามารถดำเนินคดีลับหลังกับพวกเขาได้ว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย” ร่างกฎหมายนี้จะต้องได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้ายตามรัฐธรรมนูญของอิหร่านเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมาย
