กระทรวงการคลังเตรียมมาตรการต่างๆ เพื่อนำเสนอให้ ดร.สมคิด เพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจที่คาดว่าจะซบเซาในไตรมาส 2-3 โดยเน้นการท่องเที่ยวเมืองรอง การส่งออก การลงทุนภาคเอกชน และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
วันนี้ (19 เม.ย. 62) มีรายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันนี้19 เม.ย.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปกระทรวงการคลัง เพื่อประชุมและมอบนโยบายการจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนและนำออกมาใช้ให้ทันภายในรัฐบาลชุดนี้ โดยจะเน้นออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อระยะสั้น เพื่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน ช่วยทดแทนภาคการส่งออกและการลงทุนจากเอกชนที่ชะลอตัวกว่าที่คลังคาดการณ์ไว้ อันเป็นผลมาจากสุญญากาศทางการเมือง และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ยังไม่ชัดเจนว่าพรรคใดจะได้จัดตั้งรัฐบาล จึงทำให้นักลงทุนและประชาชนทั่วไปเกิดความไม่มั่นใจ กระทรวงการคลังจึงต้องมีมาตรการดูแลเศรษฐกิจระยะสั้นเพื่อรอรัฐบาลใหม่
แหล่งข่าวกล่าวว่า มาตรการที่ออกมาครั้งนี้ จะเป็นมาตรการชุดสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งต้องการประคองเศรษฐกิจให้เดินไปได้ไม่ให้ทรุดตัว ก่อนที่จะส่งไม้ต่อไปให้รัฐบาลชุดใหม่บริหารต่อ เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจในไตรมาส 1/2562ชะลอตัวกว่าที่คาด โดยเฉพาะการส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุนเอกชน ทำให้จีดีพีโตไม่ถึงเป้าหมาย 4% ดังนั้นหากปล่อยให้เศรษฐกิจชะลอตัวไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้กระตุ้นยาก จึงจำเป็นต้องออกมาตรการมาช่วยประคองอย่างเร่งด่วน
มาตรการที่กระทรวงการคลังจะเสนอในการหารือกับนายสมคิดในครั้งนี้ อาทิ มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองนำไปลดหย่อนภาษี 15,000 บาท นอกจากนี้ จะเสนอมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย โดยใช้แนวทางการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมเตรียมเสนอมาตรการท่องเที่ยวเมืองรองลดหย่อนภาษี 15,000 บาท หลังจากมาตรการหมดอายุเมื่อสิ้นปี 61 เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปยังเมืองรอง 55 จังหวัด โดยจะกำหนดช่วงเวลาการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 หรือช่วงเดือน เม.ย.-ก.ย.2562 เท่านั้น เนื่องจากประเมินว่า เศรษฐกิจช่วงดังกล่าวจะอยู่ในภาวะตกท้องช้าง คือ ตกต่ำสุดในรอบปี
“แนวทางการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจมีการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มชะลอตัวหลังธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตรการควบคุม การกระตุ้นการใช้จ่ายของรากหญ้า รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่จะต้องมีมาตรการเพิ่มเติม เพราะการใช้มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นให้เที่ยวเมืองรองไม่เพียงและได้ผลช้าถึงปีหน้า ซึ่งไม่ทันการเพราะรัฐบาลต้องการออกมาตรการที่เห็นผลได้เร็ว” แหล่งข่าว กล่าว
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้ศึกษามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้แล้ว และจะมีการเสนอมาตรการใหม่ให้มีผลใช้ได้ปลายเดือนนี้เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้โตได้ 4% หลังจากช่วงที่ผ่านมาแนวโน้มเศรษฐกิจมีสัญญาณชะลอตัว รวมถึงภาคการส่งออกก็ยังติดลบ โดยรูปแบบสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งจะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายส่วน
“ตอนนี้เศรษฐกิจมีสัญญาณแผ่วลง ซึ่งกระทรวงการคลังได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว แต่ต้องรอประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตัวเลขเศรษฐกิจ รวมถึงความชัดเจนทางการเมือง ซึ่งตอนนี้รัฐบาลมีงบพร้อมไม่มีปัญหา เพราะสามารถนำงบประมาณกลางปีมาใช้ได้เลย”
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ